จับหนุ่มแสบจ่ายเช็คเด้ง หลังซื้อสินค้ารวมกว่า 10 ล้านบาท ก่อนปิดร้านหนีอ้างกิจการขาดทุน โดนทั้งคดีเช็คและฉ้อโกงประชาชน หลังหนีไปเปิดร้านขายส่งอยู่ที่ ขอนแก่น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มิถุนายน ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จ. อุดรธานี ตำรวจสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภ.จ.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายบุญมี ทองประดับ อายุ 38 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 130/2562 ลงวันที่ 4 มิถุนายน โดยกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นคนอื่น” พร้อมของกลาง เช็คเด้ง 16 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้าน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีรายรับรายจ่าย 2 เล่ม สินค้า 1 รถบรรทุกสิบล้อ โดยจับกุมได้ในร้านขายส่งสินค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน 

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ร.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ภูชื่นบาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก น.ส.อรวรรณ มังคะโชติ อายุ 37 ปี ชาวบ้านต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของร้านขายส่งสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี แจ้ว่า นายบุญมี ทองประดับ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำ มาซื้อสินค้าที่ร้านรวมราคา 2.9 ล้าน ได้จ่ายเป็นเช็คจำนวน 3 ฉบับ พอนำเช็คไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงมาแจ้งตำรวจให้จับกุมให้ด้วย 

...

จากการตรวจสอบเช็คดังกล่าวพบว่า เป็นของนายพัฒพงค์ ทองประดับ อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี พี่ชายนายบุญมี เป็นเจ้าของเช็คและลงนาม จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลแขวงอุดรธานีออกหมายจับ ที่ 97/2562 ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยกล่าวหา “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง และบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค” และจับกุมนายพัฒพงค์ ได้ที่บ้าน โดยนายพัฒพงค์ให้การซัดทอดว่า ตนเป็นลูกจ้างนายบุญมีน้องชาย ซึ่งนายบุญมีเป็นคนล้มละลาย ไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ จึงนำบัญชีเงินฝากตนไปปั่นให้มียอดเงินหมุนเวียนเข้าออกสูง ทำให้ธนาคารออกเล่มเช็คให้ตน ตนมีหน้าที่ลงชื่อในเช็คทั้งเล่ม โดยนายบุญมีเป็นคนนำไปใช้ 

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ เปิดเผยต่อว่า ตำรวจได้รวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดอุดรธานี จับกุมนายบุญมี และจากการสอบสวนนายบุญมี ให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายส่งในเมืองอุดรธานี ตั้งแต่อายุ 13 ปี และมีความฝันว่าอยากมีร้านขายส่งเป็นของตนเอง กระทั่งปี 2548 ได้ออกมาตั้งร้านขายส่งที่ บ้านนาข่า ตย.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่บริหารงานผิดพลาด หมุนเงินไม่ทัน และเช็คเด้ง ทำให้ศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย และขายทรัพย์สินชดใช้หนี้ 

หลังชดใช้หนี้หมด ได้นำมรดกที่ได้จากพ่อแม่ไปจำนองโดยมีนายพัฒพงค์พี่ชายเป็นคนทำธุรกรรมการเงินแทน รวมทั้งลงชื่อในเช็ค นำเงินหวนกลับมาเปิดร้านขายส่งสินค้าอีก โดยไปซื้อสินที่ร้านขายส่งในตัวเมืองอุดรธานี ด้วยการขายสินค้าในราคาต้นทุน หรือถูกกว่าตลาด เพื่อเรียกเครดิตจากร้านขายส่งที่ไปซื้อสินค้า รวมทั้งเรียกลูกค้าให้มาซื้อสินค้าที่ร้านตนมากๆ ด้วยความอยากขยายกิจการให้มีหลายสาขา ตนจึงเปิดอีก 4 ร้านค้า ซื้อรถตู้ รถปิกอัพ 4-5 คัน นำสินค้าไปส่งร้านของชำตามหมู่บ้าน ทำให้ร้านขายส่งเชื่อใจ และให้เครดิตตนด้วยการจ่ายเช็คได้ แต่เพราะตนนำเงินทุนไปขยายร้าน ทำให้ขาดเงินหมุนเวียน ทำให้เงินขาดสภาพคล่อง เช็คเด้งหลายใบ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้าน ทำให้ต้องปิดกิจการหนีไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และถูกจับในที่สุด

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากนายบุญมีปิดกิจการร้านขายส่ง และหลบหนีไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่น มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี จำนวนมากนับ 10 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้าน ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายบุญมี พบว่าหลบหนีไปเปิดร้านขายส่งแบบเดิมที่ บขส.เขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น หลังถูกจับนายบุญมีผู้ต้องหา ยอมชดใช้หนี้คืนนางอรวรรณ 2.9 ล้านบาท หากร้านขายส่งใน จ.ขอนแก่น เคยถูกนายบุญมีจ่ายเช็คเด้งสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ.