สารวัตรสืบมือพิชิตแก๊งหมอผี ปี 58 มั่นใจจับคนร้ายที่ทุบเบ้าเก็บศพ ลักเจาะกะโหลกหน้าผาก “น้องเก้า” ได้แน่ หลังได้เบาะแสรถเก๋งต้องสงสัยจอดหน้าเมรุ แฉกรรมวิธีทำ “ปั้นเหน่ง” ต้องสะกดวิญญาณผีตายโหงและลงอักขระนำไปฝังในป่าช้า ก่อนขุดขึ้นมาวางทางสามแพร่งให้โชว์อิทธิฤทธิ์ แล้วซุกไว้ใต้ต้นรักอีกรอบ หากขลังจริงมีมูลค่าสูงถึง 7 หลัก คาด ปั้นเหน่งน้องเก้าอาจเป็นฝีมือคนในพื้นที่ทำไว้ใช้เอง
สังคมยังเฝ้าจับตากรณีมีคนร้ายทุบเบ้าเก็บศพ ด.ช.ศุกลวัฒน์ หรือน้องเก้า อยู่ศรีเจริญ อายุ 6 ขวบ 9 เดือน ที่จมน้ำตายเมื่อวันเสาร์ที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วเจาะกะโหลกหน้าผากศพไป เหตุเกิดที่เมรุวัดส่งเสริมธรรม ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี ญาติเชื่อเป็นฝีมือแก๊งคุณไสยมนต์ดำ ลักไปทำ “ปั้นเหน่ง” ของขลัง ทำพิธีสะกดวิญญาณน้องเก้า วอน คนร้ายให้นำมาคืนเพื่อให้ศพครบ 32 ก่อนทำพิธีฌาปนกิจ หากไม่นำมาคืนจะไปหาผู้มีความรู้ในทาง ไสยศาสตร์ให้ทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ ขณะที่ตำรวจยังสืบสวนแกะรอยหาตัวคนร้าย มุ่งเป้าไปทั้งแก๊งที่เคยถูกจับและแก๊งใหม่ พร้อมเตรียมขออนุญาตจากญาติผู้ตายทุบเบ้าเก็บศพเพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. พ.ต.อ.วิธ มุทธสินทธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ปริญญา หาพรหม รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง สว.กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ประชุมสรุปความคืบหน้าและแนวทางการสืบสวนติดตามคนร้ายแก๊งคุณไสยมนต์ดำที่ก่อเหตุ หลังเข้าค้นกุฏิพระสราวุฒิ อัคคธัมโม อายุ 45 ปี พระลูกวัดวัดส่งเสริมธรรม ผู้ต้องสงสัยที่มีกุฏิอยู่ห่างจากเบ้าเก็บศพน้องเก้าแค่ 200 เมตร พบเครื่องมือก่อสร้าง ลูกประคำ กระปุกพลาสติกบรรจุของเหลวคล้ายไขมันสีขุ่นข้น 2 กระปุก พระสราวุฒิอ้างว่าเป็นน้ำมันนวดคลายกล้ามเนื้อและแก้ปวด
...
พ.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง เปิดเผยว่า จากการสอบถามหลวงปู่ถนอม กิตติญาโณ เจ้าอาวาสวัดส่งเสริมธรรม ได้ข้อมูลว่า ราวกลางเดือนพฤษภาคม ที่เมรุวัดมีการเผาศพคนในหมู่บ้าน มีชาวบ้านเห็นว่า เบ้าเก็บศพน้องเก้าถูกทุบแล้ว ต่อมาช่วงวันที่ 28-29 พ.ค. มัคนายกและสัปเหร่อได้มาแจ้งเจ้าอาวาสให้ไปดูเบ้าเก็บศพ และได้ส่องดูข้างในยังพบศพนอนหงายตามปกติ เจ้าอาวาสคิดว่าอากาศร้อนทำให้เบ้าแตก เลยให้ชาวบ้านไปแจ้งญาติมาโบกปูนปิด ช่วงวันที่ 1 มิ.ย. ญาติมาพบว่ากะโหลกหน้าผาก น้องเก้าถูกเจาะ ได้ถ่ายรูปก่อนฉาบปูนปิดเบ้าแล้วมาแจ้งตำรวจ จากการสืบสวนพยานบุคคลยืนยันว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มีรถเก๋งต้องสงสัยมาจอดหน้าเมรุ และพอจะได้เบาะแสบางอย่างแล้ว
“ส่วนกระปุกของเหลวคล้ายไขมันสีขุ่นข้น 2 กระปุก ที่พบในกุฏิพระสราวุฒิ มองด้วยตาคล้ายส่วนผสมของมันสมอง กระดูก เส้นผม ขณะนี้พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับพ่อแม่น้องเก้า เคยสอบถามอาจารย์อ๋อง แก๊งคุณไสยมนต์ดำ ที่ลักกะโหลกผีตายโหงในป่าช้านำไปทำปั้นเหน่ง และถูกจับเมื่อปี 58 บอกว่า มันสมอง หนังศีรษะ เส้นผมผีตายโหง จะนำมาต้มเคี่ยวทำสีผึ้งใช้ทาปากให้คนเชื่อ หลงรัก ถึงขั้นหลงใหล ส่วนกะโหลกหน้าผากทำปั้นเหน่ง ด้วยการสะกดวิญญาณ ลงอักขระ แล้วนำไปฝังในป่าช้า 3 วัน จากนั้นนำไปวาง ที่ทางสามแพร่งให้แสดงอิทธิฤทธิ์หลอกหลอนคนพิสูจน์ความขลัง และนำไปฝังใต้ต้นรักอีก 7 วัน เพื่อให้รักเชื่อฟังเจ้าของ จะได้ให้โชค ให้ลาภ ถูกหวย ชนะพนัน ทำให้ปั้นเหน่งมีราคาสูงถึง 7 หลัก เป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชคชาวต่างชาติ นักธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้า คาดคนลักกะโหลกน้องเก้าอาจนำไปฝัง หรือไปขายแล้ว” พ.ต.ท.วิบูลย์ ตำรวจที่เคยพิชิตแก๊งหมอผี กล่าว
พ.ต.ท.วิบูลย์กล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ทำจะเป็นแก๊งคุณไสยมนต์ดำเก่าหรือใหม่นั้น จากการสืบสวนติดตามเฝ้าดูแก๊งคุณไสยมนต์ดำที่เคยถูกจับมาก่อนหน้านี้ 2 แก๊ง ยังไม่พบความเชื่อมโยงในคดี ไม่ใช่ ทั้งแก๊งเก่าและแก๊งใหม่ แต่อาจเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ อาจทำปั้นเหน่งไว้ใช้เอง ส่วนการทุบเบ้าเก็บศพน้องเก้าเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่ายังไม่จำเป็น เพราะการสืบสวนคืบหน้าไปมากแล้ว และการตรวจดีเอ็นเอต้องใช้เวลา หากต้องการหลักฐานเพิ่มเติม หรือตรวจสอบศพว่านอกจากกะโหลกถูกเจาะหายไปแล้ว ยังมีชิ้นส่วนร่างกายอื่นๆหายไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาจะแจ้งให้ญาติทราบ ยืนยันได้ว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก แล้ว มั่นใจว่าจับกุมตัวคนร้ายได้แน่ แต่ยังบอกอะไร มากไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียรูปคดี