สร้างความสะพรึง ขนหัวลุก เมื่อมีคนเข้าไปในสุสานวัดดังเมืองอุดรธานี ทุบปูนที่เก็บศพ ”น้องเก้า” เด็กชายวัย 6 ขวบ 9 เดือน ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำ และได้เอากะโหลกศีรษะบริเวณหน้าผาก โดยเจาะเป็นวงกลมขนาดเท่าเหรียญสิบบาท นำออกไป เชื่อกันว่าเป็นฝีมือแก๊งทำไสยศาสตร์ นำไปทำของขลังหรือปั้นเหน่ง ตามใบสั่งของลูกค้า
ยิ่งขนหัวลุกมากขึ้น เพราะภายหลังมีการลงมือ ทางเจ้าอาวาสวัดได้ฝันมีดวงวิญญาณเด็กชายเข้ามาบอกว่า หนาว จะมาขออาศัยอยู่ด้วย และเมื่อเดินไปดูที่เก็บศพชั่วคราว จึงรู้ว่ามีการทุบทำลายจนปูนแตก กระทั่งยายของเด็กชายที่เสียชีวิตมาดู และพบว่าได้มีการเจาะเอาหน้าผากกะโหลกศีรษะของหลานชายไป แม้คนก่อเหตุจะพยายามใช้ผ้าห่มปิดบังก็ตาม
ก่อนหน้านั้นในพื้นที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยคนร้ายได้รื้อค้นเสื้อผ้า กระเป๋านักเรียนของผู้ตาย นำมาทิ้งไว้ภายนอกเบ้าปูน คาดว่าฝีมือพวกนิยมคุณไสยมนตร์ดำ หรือได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ามา และย้อนไปเมื่อปี 2557 มีเหตุคล้ายกันในป่าช้าพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม อ.กุมภวาปี และ อ.น้ำโสม โดยคนร้ายถูกดำเนินคดี และพ้นโทษออกมาแล้ว
ด้าน "เอ แบล็กเมจิก ไทยแลนด์" ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ สายเขมร มากว่า 10 ปี กล่าวกับ "ทีมเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ว่า คาดเป็นฝีมือแก๊งไสยศาตร์ ซึ่งต้องเป็นคนมีวิชาอาคม มาขโมยเจาะเอาหน้าผากกะโหลกศีรษะของเด็กชาย ซึ่งตายโหงจากการจมน้ำ และน่าจะมีคนในพื้นที่มีส่วนรู้เห็น เนื่องจากมีการทราบข้อมูลที่มาในการตายของเด็กชายรายนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเสียชีวิตในวันที่ 26 ม.ค. 2562 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ เป็นเลข 7 ถือว่าแรงมาก หากนำไปทำของขลัง และมีการคำนวณกับวันเดือนปีเกิดของเด็ก เกิดวันที่ 5 เดือน พ.ค. ปีมะโรง ซึ่งได้เลข 55 จึงเป็นความตั้งใจของกลุ่มคนขโมย
...
“เป็นความตั้งใจชัดเจนในการเจาะขโมยเอากะโหลกตรงหน้าผาก ถือเป็นดวงตาที่ 3 มีพลังมากกว่าส่วนอื่น และยิ่งเป็นของเด็ก ทำให้สามารถควบคุมวิญญาณได้ง่าย ถือว่าแรงมาก และมีราคาสูงเป็นหลักแสนขึ้นไป นำไปทำผงพราย น้ำมันพราย หรือปั้นเหน่ง รวมไปถึงนำไปบรรจุในเครื่องราง หรือในกุมารทอง หากเป็นกะโหลกส่วนตรงกลาง หรือที่เรียกว่ากระหม่อม ถือว่าหากยากเช่นกัน และขึ้นอยู่กับว่าเป็นของใคร หากเป็นของนักปราชญ์ นักการเมืองหัวรุนแรงกะโหลกจะลึกลงไป นิยมไปทำผ้ายันต์ ซึ่งลูกค้าในมาเก๊า ฮ่องกง และสิงคโปร์ นิยมมากในการนำไปเสี่ยงโชคเล่นพนัน และเฝ้าบ้าน”
สำหรับ ปั้นเหน่ง คนนิยมมากในแถบภาคเหนือของไทยหรือล้านนา และในฝั่งของเมียนมา ส่วนความหมายของปั้นเหน่ง คือ หัวเข็มขัด และความหมายในเชิงเครื่องราง เป็นของขลังประเภทหนึ่งทำจากกระดูกส่วนหน้าผากของศพมนุษย์ หรือส่วนกลางกบาลของมนุษย์ ซึ่งแล้วแต่ครูบาอาจารย์กำหนด เป็นการย่อหัวกะโหลกทั้งหัวไว้เพียงชิ้นเดียว เพื่อหวังผลนำมาใช้ทางไสยศาสตร์และเป็นการไม่อุจาดแก่สายตาผู้คน และสะดวกแก่การพกพาติดตัว เป็นสุดยอดแห่งสายพราย ที่สุดของของเครื่องราง แต่ปั้นเหน่งแท้ๆ ตรงตามตำราหาได้น้อยมาก
“ปั้นเหน่งขลังจริงๆ ต้องศพผีตายโหง หรือใช้ศพผีตายทั้งกลม โดยทำพิธีสะกดวิญญาณลงไป เช่น แม่นาค ต้องสะกดวิญญาณความเฮี้ยน โดยเจาะกะโหลกผีแม่นาคเอามาขัดเป็นมันลงอักขระอาคมและคาถาเฉพาะบท ทำเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ซึ่งการสะกดวิญญาณก็เพื่อไม่เป็นการให้โทษแก่ผู้ถือครอง”