คู่กรณีร้อง ผอ.กองช่าง อบต. หลังเมาขับกระบะเสยเก๋งพัง ก่อนตกลงชดใช้ให้ 4.2 แสนบาท โดยขอแบ่งจ่าย 2 งวด แต่ผ่านมาแล้ว 5 เดือน ยังไม่จ่ายสักบาท ขณะที่ต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบแล้ว ...
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก คุมะ มายด์ ได้โพสต์ภาพรถเก๋งถูกชนได้รับความเสียหาย พร้อมข้อความ ระบุว่า "เหตุการณ์เมื่อ 22 ธ.ค.61 เวลา 01.45 น. พ่อ-แม่ และพี่ชายของหนู ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บ และรถเก๋งพังเสียหายยับเยิน คู่กรณีมีอาชีพรับราชการเป็น ผอ.กองช่าง อบต.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ อยู่ในอาการเมาสุรา ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำไปตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ได้ค่า 187 มิลลิกรัม ขณะนี้เวลาล่วงเลยมา 5 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าเลย ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุไม่เคยมาถามข่าวคราวการบาดเจ็บแม้แต่ครั้งเดียว และยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนแม้แต่บาทเดียว
หนูวอนฝากผู้บังคับบัญชาข้าราชการเมารายนี้ ให้ลงโทษทางอาญา, ทางวินัย ข้าราชการรายนี้ให้ถึงที่สุด เป็นข้าราชการเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียทรัพย์ ลงโทษให้หนักเป็นสองเท่ากว่าประชาชนคนธรรมดา โทษทางวินัยต้องไล่ออกจากราชการสถานเดียว หนูขอความเป็นธรรมให้กับพ่อ-แม่หนูด้วยนะคะ
ช่วยแชร์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบพร้อมดำเนินเรื่องเพื่อความยุติธรรม และได้ลงโทษคนผิดด้วยนะคะ"
จากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปพบกับ นางวัชราภรณ์ นราพงษ์ พร้อมด้วย รท.ดิษฐพล นราพงษ์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยสัสดีอำเภอคอนสวรรค์ฯ รักษาราชการสัสดีอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 22 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 01.45 น. หลังจากที่ตนได้เดินทางไปรับลูกชายคือ นิติศักดิ์ นราพงษ์ ที่สถานีขนส่งจังหวัดชัยภูมิ กลับบ้าน ด้วยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ชิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 8557 ชัยภูมิ โดยให้ลูกชายเป็นคนขับ
...
พอมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ หมายเลขทะเบียน กข 7739 ชัยภูมิ มีนายไพโรจน์ ขำประไพ ผอ.กองช่าง อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้ขับรถ ซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา วิ่งสวนทางมา และเลี้ยวข้ามมาในเลนเป็นเหตุให้รถชนกันอย่างจังได้รับความเสียหายและบาดเจ็บ ซึ่งลูกชายของตนจึงได้โทรศัพท์ประสานร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้นำตัวคนขับรถทั้ง 2 ฝ่าย ไปตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ ผลปรากฏว่า นายไพโรจน์ มีค่าแอลกอฮอล์ สูงถึง 187 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด
เบื้องต้น ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ ให้ตกลงชดใช้ค่าเสียหายและสินไหมทดแทนกันเอง ซึ่งทางนางวัชราภรณ์ ได้เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 430,000 บาท พร้อมยกกรรมสิทธิ์ในรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน กง 8557 ชัยภูมิ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของนายไพโรจน์ เมื่อได้ชำระเสร็จสิ้นครบตามจำนวนที่ตกลงกัน และนายไพโรจน์ ได้ยอมรับข้อเสนอ และขอแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด คือ งวดแรกจะจ่ายให้ในวันที่ 28 มกราคม 2562 จำนวน 2 แสนบาท และงวดที่ 2 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 พอถึงวันนัดรอบแรกนายไพโรจน์ ขอเลื่อนนัดจ่ายเป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 แต่จนถึงเวลานี้นายไพโรจน์ ก็ยังไม่มีการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเลย
นางวัชราภรณ์ เล่าว่า ณ เวลานี้ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยกระบวนการทางกฎหมายทั้งทางแพ่ง และอาญา เพื่อเอาผิดทางวินัยให้ถึงที่สุด ถือว่าข้าราชการเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียทรัพย์ ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และขณะนี้ตนได้ทำหนังสือร้องไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายอำเภอคอนสวรรค์ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งนี้แล้ว
ซึ่งขณะนี้ได้มีหนังสือตอบกลับมาจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ถึงตนว่า ได้ดำเนินการให้ทางจังหวัดชัยภูมิ ลงโทษวินัยนายไพโรจน์ ขำประไพ ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.แห่งหนึ่ง ในอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ กรณีเมาสุราแล้วขับแล้ว
ขณะที่ จากการสอบถาม ทาง อบต. ทราบว่า ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการตรวจสอบภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 นี้ และจะดำเนินการรายงานผลการตรวจสอบให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นต่อไป.
ข้อมูลบางส่วนจาก เฟซบุ๊ก คุมะ มายด์