แมลงปีกแข็ง จำนวนมหาศาลนับล้านๆ ตัว บุกโรงเรียน บ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ เผยพากันมาหลังฝนตกทุกปี เป็นอุปสรรคต่อการเรียน การใช้ชีวิต ได้แต่เก็บกวาด ยังไม่มีวิธีกำจัด
วันที่ 24 พ.ค. ที่โรงเรียนบ้านทุ่งกอกหนองเกาะ หมู่ 5 บ้านทุ่งกอก ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โรงเรียนที่เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสบปัญหาแมลงปีกแข็งสีดำจำนวนมากมาอาศัยอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ห้องเรียน ชั้นวางหนังสือเรียน บานประตูหน้าต่าง สามารถบรรเทาคือการใช้ยาฆ่าแมลงฉีดในวันหยุดและกวาดซากของแมลงทิ้ง ครูและเด็กนักเรียนยังต้องประสบปัญหา ต้องอดทนในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่สามารถกำจัดได้หมด หากรำคาญมากนักเรียนก็จะใช้วิธียกเท้าให้พ้นพื้นเพื่อไม่ให้แมลงไต่ขึ้นขา เด็กนักเรียน ครู นักการภารโรงในระหว่างการเรียนการสอนก็ต้องสลับช่วยกันปัดกวาด แต่ก็ได้แค่พอบรรเทา ยังไม่มีวิธีกำจัดให้หมดสิ้นไป

นายสิทธิชัย พงษ์สิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดเผยว่า เมื่อมีฝนตกในพื้นที่ แมลงปีกแข็งเหล่านี้จะออกมาจากพื้นดินใต้อาคาร ตามซอกพื้นและกำแพง บานประตูหน้าต่าง เป็นปัญหาของโรงเรียนมาหลายปี แม้ทางโรงเรียนจะนำยาฆ่าแมลงมาใช้ก็ได้เพียงบรรเทา ขณะนี้เพิ่งเริ่มเปิดการเรียนการสอนเป็นสัปดาห์แรก แม้สามารถกวาดทิ้งได้แต่ก็สร้างความรำคาญเป็นอุปสรรคให้กับนักเรียนและครูพอสมควร แต่ก็ต้องอดทนและขยันช่วยกวาดกำจัดไปก่อนในช่วงหน้าฝนนี้
...
ขณะเดียวกัน ที่มู่บ้านชายแดนไทยเขมร อำเภอภูสิงห์ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อที่นำโดยแมลงเป็นพาหะ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.ตามอญ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ห้วยตามอญ, อส. เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากแมลงกระเบื้องหรือแมลงปีกแข็งจำนวนมากที่บุกเข้าไต่ตามตัวบ้าน ตู้เสื้อผ้า โอ่งน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดแมลง พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันตัวเอง

นายบุญจันทร์ โสตพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3 ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ กล่าวว่า หลังจากที่มีฝนตกหนักติดต่อกันมาต่อเนื่องยาวนาน หลังฝนหยุดตกก็ได้มีแมลงปีกแข็ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นแมลงอะไร จำนวนนับ 100,000 ตัว เข้ามาไต่และอยู่อาศัยภายในบ้าน โดยเข้ามาเกาะตามฝาผนัง, เสื้อผ้าที่แขวนไว้ และโอ่งน้ำ แมลงนี้เข้าไปลอยอยู่จนไม่กล้านำน้ำมาใช้อีก ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถกินอยู่หลับนอนในบ้านได้ตามปกติ ต้องหนีไปอาศัยอยู่บ้านญาติ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ดังกล่าว