สาวใหญ่เมืองอุดรฯ ปลูกกัญชา 4 ต้น ใช้กินก่อนอาหาร บำบัดโรค "มะเร็งเต้านม" ระยะ 4 อ้างอาการดีขึ้น ขณะที่ ผู้ช่วยแพทย์สาธารณสุข เผยต้องใช้ให้เหมาะสม เพราะยังมีผลทำให้เมาและเสพติดได้...

วันที่ 21 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี เปิดรับลงทะเบียนแจ้งการครอบครองกัญชาของผู้ป่วย ในวันสุดท้ายมีผู้สนใจเดินทางมาจำนวนมาก ต่างจากที่ผ่านมามีผู้มาลงทะเบียนรวมเพียง 142 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่จัดให้มีการรับบัตรคิวไว้ 200 คิว รอการตรวจเอกสารเบื้องต้น

ขณะเดียวกัน จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แจ้งรายละเอียด รวมทั้งไปสอบถามเป็นรายบุคคล พร้อมให้คำแนะนำจัดหาเอกสาร ก่อนจะรับการตรวจเอกสาร และเข้าไปยื่นลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ โดยปัญหาที่ยังต้องแก้ไข อาทิ ผู้ป่วยมีภูมิลำเนาต่างจังหวัด มาอาศัยอยู่กับบุตรหลาน ต้องแก้ไขด้วยการไปแจ้งย้าย ทะเบียนบ้านมาอยู่ที่อุดรธานี และไม่ได้นำภาพต้นกัญชาที่ปลูกไว้มาแสดง ต้องโทรให้บุตรหลานไปถ่ายภาพ ส่งมาให้ทางโทรศัพท์

นางประภานิดา ไชยคีนี อายุ 47 ปี บ้านอยู่ ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และลามมาที่ต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 เข้ารับการรักษาในช่วงป่วยระยะที่ 2 ด้วยการคีโมหรือฉายแสง แล้วก็กลับมารอดูอาการ ไม่ได้ให้ยาอะไรมารับประทาน เวลาผ่านมาอาการก็ลุกลามมาระยะที่ 4 เขาบอกว่าการรักษาด้วยยาแพงมาก บัตรสุขภาพไม่มีสิทธิได้รับยาเหล่านั้น

...

ขณะที่ หลายเดือนก่อนมีเพื่อนแนะนำกัญชา และศึกษาเพิ่มเติมเองในอินเทอร์เน็ต จากนั้นไปเสาะแสวงหาเมล็ดกัญชามาปลูก 4 ต้น กระจายแอบไว้ตามที่ต่างๆ ไม่อยากให้ต้นสวยกลัวถูกจับ เพื่อเอาใบมาใช้เป็นยาบำบัด ด้วยการเก็บใบมาตำให้ละเอียด บีบเอาน้ำได้ครั้งละ 1-2 ช้อนชา รับประทานก่อนอาหารวันละ 1 ครั้ง ทำให้กินอาหารอร่อย กินได้เยอะ นอนหลับ ซึ่งเมื่อก่อนกินอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ จึงมีความหวังว่าอาการจะดีขึ้น ตอนนี้ 4 ต้นแรกตายไปแล้ว ที่เหลืออีก 4 ต้นเป็นรุ่นที่สอง ”

ทางด้าน นางกา สมศรีสา อายุ 67 ปี บ้านอยู่ ต.โพธิ์ศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เผยว่า เป็นเบาหวานมานานหลายปี ต้องใช้กัญชาสดมาปรุงอาหาร ใส่ลงไปในอาหารประเภทแกง ต้ม หรือต้มน้ำดื่ม เป็นยาเพื่อการบำบัดรักษา โดยปลูกใส่กระถางไว้ในบ้าน 2 ใบ สิ่งที่นำมาใช้ได้ทั้งใบและราก เมื่อเปิดให้ขึ้นทะเบียนตอนแรกไม่กล้า จนมีคนมาขึ้นทะเบียนไปแนะนำ จึงรวบรวมหลักฐานมายื่น

อย่างไรก็ตาม นายมะโนชต์ นาคะวัจนะ เภสัชกรเชี่ยวชาญ ผช.นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ออกไปพบปะประชาชน ตามเวทีที่หน่วยงาน และองค์กรจัดขึ้น เพื่อทำความเข้าใจการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ในกรอบของกฎหมายที่เปิดทางไว้ ซึ่งต้องระมัดระวังใช้ให้เหมาะสม เพราะยังมีผลทำให้เมาและอาจเสพติดได้ แต่จากกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้น และความพยายามผลักดันในบางส่วน ทำให้ชาวบ้านยังเข้าใจคลาดเคลื่อน ยังมีความต้องการจะปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ จะต้องทำความเข้าใจและเหตุผลมากขึ้น.