เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกว่า 200 นาย เตรียมเข้าคุมเหตุที่สถานพินิจอุบลฯ หลัง 2 กลุ่ม เปิดศึกทะเลาะวิวาท เหตุเขม่นกันมาก่อน แย่งหัวลูกกลิ้งขวดน้ำ นำมาฝังเป็นมุกที่อวัยวะเพศ ...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก ส.ต.ท.วิญญา พิทักษ์ชาติ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่บ้านหัวเรือ ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี ว่า 
มีเยาวชนที่อยู่ในการควบคุมของสถานพินิจเด็กฯ ทั้งชายและหญิงกว่า 300 คน จาก 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ก่อเหตุทะเลาะวิวาท แล้วนำเอาดินที่ใช้ปรับภูมิทัศน์ภายในที่ควบคุมขว้างปาใส่กัน เกรงจะเกิดเป็นเหตุลุกลามบานปลาย จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาความสงบ

หลังรับแจ้งได้ประสานขอกำลังชุดควบคุมฝูงชนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองอุบลราชธานี ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ และกำลัง อส.จากกองร้อยอาสาสมัครประจำจังหวัดประมาณ 200 นาย พร้อมรถส่องแสงสว่าง เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์

แต่เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ปรากฏเหตุการณ์ได้สงบลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ของสถานพินิจเด็กฯ สามารถแยกตัวกลุ่มหัวโจกที่ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย จำนวน 11 คน ออกจากกัน และนำตัวมาทำการปรับความเข้าใจ และสอบสวน

จนทราบว่า เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กจากกลุ่มจังหวัดศรีสะเกษ ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท แย่งหัวลูกกลิ้งของขวดน้ำ ที่จะนำมาทำเป็นมุกฝังบริเวณอวัยวะเพศให้กับเด็กกลุ่มอุบลราชธานี จนเกิดการชกต่อยกันขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

และในวันนี้ ขณะที่กำลังให้เด็กช่วยกันปรับภูมิทัศน์ ทำเป็นสระน้ำในพื้นที่ควบคุม เด็กกลุ่มเดิมที่เคยเขม่นกันมาก่อน ก็ก่อเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อย โดยมีกลุ่มเด็กๆ ที่เป็นกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายกว่า 300 คน นำเอาก้อนดินที่ขุดขึ้นมาขว้างปาใส่กันไปมา และมีเด็ก 1 คน ถูกฝ่ายตรงข้าม ใช้ปลายของแปรงสีฟันที่นำมาฝนจนแหลม แทงเฉี่ยวขา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กระทั่งเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ พร้อมนำตัวหัวโจกทั้ง 2 ฝ่ายจำนวน 11 คน มาปรับความเข้าใจ

...

ต่อมา พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งนำกำลังเข้ามาช่วยเหลือได้ชี้แจงให้กับกำลังพลทราบว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะผู้ก่อเหตุก็เป็นเด็กๆ ที่เป็นลูกหลาน แต่ขณะนี้เหตุการณ์ได้สงบลงแล้ว 

โดยระบุว่า สาเหตุเกิดการกระทบกระทั่งกันจากอารมณ์ของหัวโจกที่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน ทำให้ผู้ที่ตามผู้นำก็เลยกลายเป็นกลุ่มใหญ่ในการทะเลาะวิวาทกัน แต่ทางผู้อำนวยการสถานพินิจเด็กฯ ก็สามารถแยกกลุ่มของวัยรุ่นที่ขัดแย้งออกมา และเอาหัวโจกที่ขัดแย้งมานั่งคุย และทำสัญญาของลูกชายจะไม่ทะเลาะกันอีก เพราะหากยังก่อเหตุขึ้นอีก อาจไม่ได้รับการปล่อยตัวในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เหตุการณ์สงบลง และไม่น่าเป็นห่วงแล้ว