ตำรวจบ้านไผ่ จับแล้วไอ้หื่น ลวงสาวลาวมาข่มขืนในรีสอร์ต ที่แท้คนงานก่อสร้าง อ้างคุยกันทางเฟซฯ ยืมเงินฝ่ายหญิงหลายครั้งล่าสุดทราบว่าข้ามมาไทย เลยนัดเจอแล้วเกิดโมโหที่สาวอวดภาพอดีตแฟน เลยปล้ำขืนใจไป 4 ครั้ง
จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค.62 ได้มี นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สาวชาวลาว นำเอกสารที่เป็นภาพถ่าย พร้อมคลิปจากวงจรปิด เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ไพโรจน์ สันดี สว.สอบสวนสภ.บ้านไผ่ ว่า ถูกชายไทย ชื่อนายต้น อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวดำ รูปร่างใหญ่ ล่อลวง กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนภายในห้องเลขที่ 17 ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 21 มีนาคม จนถึงบ่ายวันเดียวกันที่รีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมีหลายหน่วยงานให้ความสนใจ ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ มาตลอดทั้งวัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายรุจ รังสี นายอำเภอบ้านไผ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเอกชัย พิระภาค อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 ม.5 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่าเบล สีดำ ทะเบียน บลร-954ขอนแก่น คันที่ใช้ไปรับผู้เสียหาย ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ปากทางเข้าบ้านหนองแวงโอง ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่
ขณะแถลงข่าว นายเอกชัย พิระภาค อายุ 32 ปี ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายทางเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2561 จากนั้นก็คุยกันเรื่อยมา จนทราบว่าผู้เสียหายเลิกกับแฟน จึงขอคบและขอคุยกันในฐานะแฟน ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน นอกจากนี้ยืมเงินผู้เสียหายมาหลายครั้ง และยังไม่ได้คืน ก่อนก่อเหตุทราบว่าผู้เสียหายมาที่ประเทศไทย และจะกลับประเทศลาวพร้อมพี่สาว จึงพูดคุยกัน และผู้เสียหายได้ตัดสินใจเดินทางมาหาที่ อ.บ้านไผ่ โดย ไม่ได้มีการล่อลวงแต่อย่างใด
...
“โมโหที่สาวลาวอวดภาพแฟนเก่า จึงปลุกปล้ำขืนใจ 4 ครั้งแล้วพากลับไปส่งที่ บขส.โดยที่ยังไม่ได้คืนเงิน และไม่ได้ตั้งใจที่ล่อลวงมาข่มขืน ที่ทำไปเพราะโมโหหึงหวง และฝากขอโทษสาวลาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”
ทางด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า การสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ข่มขืนสาวลาวจริง จึงได้แจ้งข้อหาทั้ง 4 ข้อคือ ข่มขืนกระทำชำเรา หญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตน, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่จะมีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนหรือไม่ ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งความเป็นจริงการใช้รูปโปร์ไฟล์ที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเองก็ไม่น่าไว้ใจอยู่แล้ว ในจุดนี้ผู้ที่ใช้โซเชียลต้องมีการระมัดระวัง และอย่าไว้ใจ เชื่อใจใครง่ายๆ