"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่ อ.สตึก บุรีรัมย์ ตาม 2 คดีดัง เต็นท์รถมือสองและสมาคมฌาปนกิจศพสหกรณ์โกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมยอมคืนรถให้เหยื่อแล้ว 18 คัน ส่วนตำรวจตามยึดทรัพย์ 9 คณะกรรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ ทั้งหมดกึ่งสารภาพ
วันที่ 21 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)ลงพื้นที่ สภ.สตึก จ.บรีรัมย์ เพื่อมาติดตาม 2 คดีใหญ่ ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คือคดีเต็นท์รถมือสองฉ้อโกงประชาชน และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก หลังมีชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้ามาร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยต่อมาได้มีการเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสองกลุ่มก่อนหน้านี้
โดยมีชาวบ้านผู้เสียหายได้มารอฟังผลการดำเนินคดีตั้งแต่ 12.00 น.จนกระทั่งถึงเวลา 19.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมาถึงชาวบ้านกว่า 1,000 คนที่ได้รับความเดือดร้อน ต่างตบมือต้อนรับหลายคนหลั่งน้ำตา ที่มีวีระบุรุษ เข้ามาช่วยเหลือยามประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่พึ่ง ซึ่งคดีเต็นท์รถมือสอง ผู้ต้องหาคือ หจก.นิ่มนวลยนตรการ หรือเต็นท์รถสมบูรณ์กลการ อ.สตึก มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท วันนี้เจ้าของเต็นท์รถ คือนางนิ่มนวล สีสันงาม และสามี มีความประสงค์ที่จะชดใช้เงินให้กับกลุ่มผู้เสียหาย เป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท พร้อมกับคืนรถยนต์จำนวน 18 คันให้กับผู้เสียหาย

...
ขณะที่คณะกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จำนวน 9 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้วันนี้ ประกอบด้วยนายเหลา ชื่นรัมย์ ,นายบุญมี บุตรสีคะราช ,นายอุดม พวงธรรม ,นายเกษม ไพเราะ ,นายอุทัย ยีรัมย์ ,นายปิด ใหญ่รัมย์ ,นายกี่ ศิริสุข ,นางสาว ช่อผกา กุสิรัมย์ และนางสาวจิรนุช เสนาบุญ ถูกต้องข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันยักยอกทรัพย์,ร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยไม่ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนฌาปนกิจสงเคราะห์ ,ร่วมกันดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย มีสมาชิกที่ได้รับผลกระทบกว่า 3,500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นได้มีการตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินของคณะกรรมการฌาปนกิจศพของผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย มีรถยนต์ 8 คัน เงินสด 8 แสนบาท อาวุธปืน 2 กระบอก รวมถึงบ้านและที่ดินรวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 36 ล้านบาท โดยจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งหมดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า ขณะนี้ได้พยายามเจรจากับผู้ต้องหาให้คืนเงินให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ
