วิสามัญ "โอ เล็ดรอด" หัวหน้าแก๊งฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางศพ กลางแยกไฟแดง หลังใช้ปืนชิงรถกลางแยกหวังหลบหนี และเปิดฉากยิงสู้ตำรวจ ก่อนถูกยิงสวนตายสยอง...
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 มี.ค.62 พ.ต.ท.ประสงค์ งามสง่า สว.(สอบสวน) สภ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางศพ บริเวณสี่แยกตู้ยามประชาร่วมใจ ถนนแจ้งสนิท ต.ลุกพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธ์ ผบก.ภ.จว.ยโสธร อัยการ จ.ยโสธร แพทย์เวร รพ.คำเขื่อนแก้ว เจ้าหน้าที่ปกครอง อ.คำเขื่อนแก้ว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 จุดคำเขื่อนแก้ว
ที่เกิดเหตุเป็นกลางสี่แยกตู้ยามประชาร่วมใจ มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองยโสธร พบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒฎ 5712 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพกระจกประตูฝั่งข้างคนขับถูกยิงด้วยกระสุนจำนวนหลายนัด ยางล้อหน้าฝั่งซ้ายแตก ตรวจสอบภายในพบศพนายสมศักดิ์ เล็ดรอด หรือโอ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางศพ นอนเสียชีวิตภายในที่นั่งฝั่งข้างคนขับ สภาพศพพบบาดแผลที่แขนซ้ายจำนวน 3 รูบริเวณหน้าอกซ้าย1 รู หน้าท้อง 1 รู บริเวณขาซ้าย 1 รู บริเวณข้างหลัง 2 รู ข้างที่นั่งพบอาวุธปืนไทยประดิษฐขนาด .38 ตกอยู่ ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงได้วิ่งหลบหนีลงจากรถพบมีแผลบริเวณแขนซ้าย ประมาณ 20 เมตรพบรถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ทะเบียน บล 708 อุบลราชธานี สีเขียว กระจกด้านหน้าแตกละเอียด มีรอยถูกยิง จอดอยู่
พล.ต.ต.ภิญโญ เผยว่า วันนี้มีคนร้ายชื่อนายสมศักดิ์ เล็ดรอด หรือโอ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางศพ ที่ จ.สมุทรปราการ ได้หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.ยโสธร โดยคนร้ายได้หลบหนีกบดานอยู่ 3 จังหวัดประกอบด้วย จ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี สุดท้ายหนีมาที่ จ.ยโสธร ซึ่งทีมสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน จ.สมุทรปราการ ชุดสืบสวน จ.อำนาจเจริญ และชุดสืบสวน จ.อุบลราชธานี ได้ติดตามคนร้ายโดยมาพบผู้ต้องหาในพื้นที่ ตรงสี่แยกไฟแดงของ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร โดยผู้ต้องหาได้ขับรถรถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ทะเบียน บล 708 อุบลราชธานี สีเขียว มาจอดติดไฟแดงที่แยกดังกล่าว จากนั้นผู้ต้องหาพยายามจี้ชิงรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ก่อนหน้านี้ เพื่อเปลี่ยนพาหนะในการหลบหนี ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไล่ติดตามมาถึง ผู้ต้องหาพยายามใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เพื่อหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยิง เพื่อหยุดยั้งผู้ต้องหา หากไม่กระทำดังกล่าวคนร้ายอาจใช้อาวุธปืนทำร้ายเจ้าของทรัพย์และเพื่อเปิดทางหนี ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กระทำตามกรอบของกฎหมายกำหนด
...
ส่วนผู้ต้องหานั้นพกปืนตลอดเวลาและในระยะทางผ่านมาผู้ต้องหาได้จี้ชิงทรัพย์เพื่อมีการเปลี่ยนแปลงยานพาหนะมาตลอด เป็นการหลบหนีหมายจับแบบไม่มีเป้าหมาย จนเจ้าหน้าที่สามารถหยุดยั้งการกระทำผิดของคนร้ายได้ ส่วนคนขับรถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒฎ 5712 กรุงเทพมหานคร ที่ถูกผู้ต้องหาชิงรถขณะจอดติดไฟแดงอยู่นั้นเบื้องต้นอาการปลอดภัย ซึ่งไม่ได้ถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่อาจถูกเศษกระจกในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะถูกยิงหรือไม่ต้องรอผลการชันสูตรบาดแผลจากทางแพทย์อีกครั้งหนึ่ง ส่วนศพของผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่จะได้เก็บไว้ที่ รพ.คำเขื่อนแก้วก่อน
ขณะที่นายวิระนันท์ พันดาบุตร อายุ 44 อาชีพขายก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่าช่วงเกิดเหตุตนเห็นคนร้ายขับรถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ทะเบียน บล 708 อุบลราชธานี สีเขียว กระจกด้านหน้าแตกละเอียด ขี่มาด้วยความเร็วพอมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นไฟแดง คนร้ายได้เหยียบเบรกรถเสียดัง จากนั้นคนร้ายได้วิ่งจากคันดังกล่าวไปด้านหน้าเพื่อขึ้นรถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒฎ 5712 กรุงเทพมหานคร ที่จอดห่างประมาณ 3 คัน จากนั้นคนร้ายได้เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง จากนั้นตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จอดรถและวิ่งติดตามไปกระทั่งได้ยินเสียงปืนประมาณ 5-6 นัดดังขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเร็วมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมศักดิ์ หรือ โอ เล็ดรอด อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.186/2562 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2562 ในความผิด กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย"