น้ำใจคนไทยหลั่งไหล ช่วยลุงขาหัก ดูแลเมียป่วยมะเร็งเต้านมที่อุดรธานี อยู่กันลำพังไม่มีลูกหลาน กับเงินช่วยจากรัฐเดือนละ 600 ล่าสุดยอดบริจาคทะลุ 4.4 แสน บอกเหมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจ เป็นกำลังให้สู้ต่อ

กรณี นายเฉลิม คุณาดิเรก อายุ 63 ปี พิการขาหัก ต้องดูแล น.ส.นิตยา เหลาพรม อายุ 55 ปี ภรรยา ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 ในบ้านเช่าเลขที่ 77/1 ซอยพรสวรรค์ 4 บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งทั้งสองไม่มีบุตรด้วยกัน เมื่อเจ็บป่วยไปทำงานไม่ได้ ต้องขาดรายได้ ค้างค่าเช่าบ้านมากว่า 6 เดือน ต้องกู้ยืมเงินไปซื้อยามารักษาภรรยา มีเพียงเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท ที่นำใช้จ่ายอย่างประหยัด ต้องขอข้าวญาติกินประทังชีวิต ได้วอนขอผู้ใจบุญช่วยค่าเช่าบ้านที่ค้างอยู่จำนวน 9 พันบาท กับอยากได้รถจักรยานยนต์สักคันเพื่อพาภรรยาไปหาหมอ และลงทุนทำหมูหวาน น้ำพริกนรกไปฝากขาย หารายได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เช้าวันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายเฉลิม และ น.ส.นิตยา ที่บ้านเช่า สังเกตว่าสองสามีภรรยามีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า หลังขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ปรากฏว่ามีคนไทยใจบุญ โอนเงินมาช่วยเหลือตั้งแต่รายละ 10-10,000 บาท รวมเป็นเงิน 4.4 แสนบาท ตนได้นำเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่ายา และใช้หนี้ที่หยิบยืมญาติพี่น้องมาตั้งแต่ล้มป่วย ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้ นอกจากนี้ยังได้ซื้อชุดทำแผลมาเก็บไว้ด้วย 

...

น.ส.นิตยา กล่าวด้วยสีน้ำยิ้มแย้มว่า ตั้งแต่พวกตนเจ็บป่วยมา ก็พากันลำบาก แต่ไม่กล้าไปขอความช่วยเหลือใคร เกรงจะเป็นการรบกวน แต่สามีได้แอบขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ซึ่งหลังจากมีข่าวออกไป ได้มีผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยเหลือ รู้สึกตื้นตันใจ ดีใจ มีกำลังใจ

"ขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือ และขอให้บุญกุศลครั้งนี้ ได้กลับมาหาทุกท่านด้วยเทอญ”

ด้าน นายเฉลิม กล่าวว่า พวกตนเหมือนต้นไม้ที่ใกล้จะตาย ผู้ใจบุญเหมือนน้ำทิพย์มาชะโลมใจ ทำให้ต้นไม้ได้ฟื้นคืนกลับมา รู้สึกตื่นตันใจ ขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่าน เงินที่ผู้ใจบุญบริจาคมา หลังนำไปใช้หนี้ จ่ายค่าเช่าบ้าน และนำไปซื้อจักรยานยนต์พาภรรยาไปหาหมอ เพื่อไม่ให้เงินร่อยหรอลงไป จะนำมาลงทุนค้าขาย ทำหมูหวาน น้ำพริกนรก และขายลอตเตอรี่ เพื่อหารายได้ และใช้จ่ายในการรักษาภรรยา ใช้จ่ายยามจำเป็น ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่สุรุ่ยสุร่าย พวกตนถือว่า ตายแล้วเกิดใหม่ ตนจะไม่ทอดทิ้งภรรยา จะดูแลกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่