ลูกสาวครอบครัวศรีสวัสดิ์ นำ 5 ศพตกเหวในลาว กลับถึงไทย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายอำนวยความสะดวก ตำรวจท่องเที่ยวจัดรถนำส่งศพกลับถึงบ้านสมุทรปราการ คาดถึงเช้าพรุ่งนี้ กู้ชีพกาแดงลาวเตือนนักท่องเที่ยวไม่ชินทางเกิดอุบัติเหตุง่าย แนะไม่ควรขับรถไปเอง
เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 4 มี.ค.62 รถตู้หน่วยกู้ชีพองค์การกาแดง สปป.ลาว 3 คัน ได้นำ 5 ศพผู้เสียชีวิตครอบครัวศรีสวัสดิ์ จากเหตุการณ์รถยนต์กระบะตกเหวขณะเดินทางไปท่องเที่ยวแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมาถึงด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย โดยมีลูกสาวของครอบครัวศรีสวัสดิ์ 2 คน เดินทางไปรับศพด้วยตนเอง เมื่อมาถึงฝั่งไทย พ.ต.อ.ประเสริฐ วิจิตรทัศนา ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.เลย, นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย และนายอาสฬหะ พิมพ์บึง หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สะพานมิตรภาพหนองคาย ได้อำนวยความสะดวกทั้งด้านพิธีการและขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

...
จากนั้นได้มีการย้าย 5 ศพ ลงจากรถตู้ขององค์การกาแดงลาว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสะพานมิตรภาพหนองคาย ตรวจศพทุกศพเนื่องจากต้องตรวจดูว่ามีภาวะป่วยเป็นโรคติดต่อหรือไม่ รวมไปถึงสารคัดหลั่งที่อาจจะแพร่โรคได้ เมื่อตรวจแล้วสาเหตุการตายไม่ผิดธรรมชาติ ไม่เป็นโรคติดต่อ ก็ได้บันทึกข้อมูลไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานหนองคายได้บรรจุหีบห่อศพใหม่ให้ได้มาตรฐานนำศพทั้งหมดใส่โลง ระหว่างนั้นลูกสาวผู้เสียชีวิตได้จุดธูปไหว้ศพก่อนจะยกโลงบรรจุศพใส่รถตู้ของมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน 1 คัน, รถกระบะของมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานหนองคาย 3 คัน ออกเดินทางจากด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว เมื่อเวลา 00.21 น. โดยมีรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนออกเดินทางไปส่งจนถึงจุดหมายที่ปากน้ำ สมุทรปราการ คาดว่าน่าจะเดินทางถึงประมาณ 07.00 - 08.00 น. วันที่ 5 มี.ค.62

ด้านนายพรชัย สีวิไล หัวหน้าแผนกสุขภาพฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพองค์การกาแดงลาว กล่าวว่า การช่วยเหลือนำศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดเดินทางกลับไทยนั้น ได้มีการทำพิธีเรียกวิญญาณแบบเรียบง่ายก่อน แล้วจึงเคลื่อนขบวน แต่ระหว่างทางมีอุปสรรคจากสภาพรถยนต์เกิดยางแตกต้องจอดเปลี่ยนยาง ประกอบกับเส้นทางเป็นลูกรัง ถนนไม่ดี ทำให้การเดินทางไม่สะดวก บริเวณจุดเกิดขึ้นนั้นเป็นทางลาดชัน ขึ้นลงเขา มีหุบเหวเป็นระยะสภาพโดยทั่วไปมีหมอกปกคลุม ทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะกระชั้นเพียง 10 เมตร ประกอบกับคนลาวกับคนไทยนั้นขับรถกันคนละเลน ช่องทางจราจรสลับกัน หากคนไม่ชำนาญทางหรือไม่เชี่ยวชาญก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการไปท่องเที่ยวในเมืองต่าง ๆ ของลาว ควรศึกษาเส้นทางก่อน ทางที่ดีไม่ควรขับรถยนต์ไปเอง ควรใช้บริการรถนำเที่ยวของทางลาวจะดีและปลอดภัยที่สุด.
