"สมชาย" เร่งหาเสียง จูงมือผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยโสธร ลงพื้นที่ มั่นใจเป้า 90% ที่นั่งในภาคอีสาน ยันวีรบุรุษต้องมาเสียสละ ไม่ใช่มากอบโกย โอกาสที่จะปลดแอก 24 มี.ค.นี้เดินเข้าไปใช้สิทธิ์...


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ก.พ.62 ที่โรงสีไชยกุลพานิช ต.สามแยก อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่จังหวัดยโสธร เพื่อประชุมทางวิชาการผู้แทนพรรคการเมืองประจำหน่วยเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เขต 3 ยโสธร พร้อมกับพบปะสมาชิกพรรคและขึ้นเวทีปราศรัยช่วย ดร.ธนกร ไชยกุล ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร เขต 3 โดยมีประชาชนกว่า 500 คนเข้าร่วมฟัง

นายสมชาย กล่าวปราศรัยว่า เราดีใจและภูมิใจที่พวกเราชาวอีสานเป็นผู้ที่ให้กำเนิดประชาธิปไตยอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งในอดีตและปัจจุบัน พี่น้องครับผมเชื่อว่าพี่น้องรู้ดีอยู่แล้วว่าใครช่วยเราได้ใครทำให้ข้าวราคาแพง ใครทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น ใครส่งเสริมลูกหลานเราให้ได้รับการศึกษา ใครดูแลเราเวลายามเจ็บป่วย ใครให้เงินกู้เราเวลาไม่มีเงินประกอบอาชีพทำมาหากิน ใครนำสินค้าโอทอปบ้านเราไปจำหน่ายเมืองนอกได้เงินมาจำนวนมาก มีคนเดียวและพรรคเดียวที่ทำได้พี่น้องเชื่อไหม วันนั้นจะทำรถไฟความเร็วสูงมาที่ภาคอีสานครั้งหนึ่งแล้ว ปรากฏว่ารถไฟตกรางโดนยึดอำนาจ จนขณะนี้ยังทำไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรครับหากพี่น้องช่วยชูมือให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เราทำแน่นอนไม่เสียหาย วีรบุรุษมันต้องมาเสียสละไม่ใช่มากอบโกย ไม่ใช่มาเป็นเจ้าคนนายคน ผมพูดแบบนี้ไม่ได้พูดในส่ิงที่เพ้อฝันเพ้อเจ้อ หรือทำไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยในอดีต และพรรคที่เคยถูกยุบเขาทำมาเป็นตัวอย่าง แล้วชาวบ้านพ่อแม่พี่น้องภูมิใจในสิ่งนั้น 

...

วันนี้ถึงเวลาที่เราจะร่วมกัน เราผู้เป็นหุ้นส่วนของประเทศไทยไม่มีใครเป็นเจ้าของประเทศนี้ เจ้าของคือประชาชน เรามีโอกาสที่จะปลดแอกด้วยการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่ผมจะมาบอกกับพี่น้องประชาชนการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการตั้งสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคนว่าเราจะเอาประเทศไทยเดินไปทางไหน

พวกผมทั้งหลายไม่เคยคิดว่าตนเองวิเศษอะไรกว่าท่านทั้งหลายในที่นี้ แต่พวกผมอยากขอโอกาสเป็นตัวแทนเพื่อไปทำประโยชน์ให้ เราพูดความจริงว่าจะขอกลับมาพลิกฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากความมืดมนไปสู่แสงสว่าง วันนี้เราลองถูกลองผิดมาเยอะแล้วเห็นเองแล้วว่าสิ่งใดใช่สิ่งใดไม่ใช่ เราจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของใครอีก จะไม่ต้องเป็นหนูทดลองของพรรคการเมืองหรือกลุ่มอำนาจต่างๆ เราจะเป็นตัวของเราเอง เราไม่ดูถูกประชาชน 

ครั้งนี้สำคัญอย่าลองผิดลองถูก ที่สำคัญกาเพื่อไทยอย่างเดียว อย่าไปเสี่ยงว่าเลือกคนนี้แล้วจะได้เงินล่วงหน้า 300, 500 บาท วันนี้เรามาอยู่ในยุคนี้เราเห็นหมดแล้วสิ่งใดแตกต่างกัน จึงขอให้พี่น้องชาวอีสานเป็นผู้นำในการที่จะกาให้เห็นว่านี้แหละคือของจริง ประชาชนตัวจริง และเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่แท้จริง ตนอยากให้คนที่สร้างพรรคการเมืองนี้มา ได้ภูมิใจที่ตัวเองทำคลอดมากับมือ 

วันก่อนตนเดินทางเดินไปจังหวัดลพบุรีมีพี่น้องที่เป็นชาวนาบอกว่าเห็นกฎหมายฉบับหนึ่งชื่อ พ.ร.บ.ข้าว ต่อไปไม่ให้ชาวนาสนับสนุนพันธุ์ข้าว เวลาเก็บเกี่ยวแล้วจะเอาข้าวปลูกไว้ไม่ได้ ซึ่งผมไม่รู้ว่าสมองใครเป็นคนคิด ผมก็ตอบกับคนที่มาบอกว่าผมไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ว่าถ้าเป็นความจริงก็ถือว่าใช้ไม่ได้เพราะเป็นกฎหมายที่ทำร้ายชาวนา แต่หากพรรคเพื่อไทยเข้าสภาแล้วจะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ก่อนแน่นอน เราต้องส่งเสริมพี่น้องเราไม่ใช่จะมาทำร้ายพี่น้องชาวนา 

เราจะไม่เป็นหนูทดลองให้ใครต่อไปจะเป็นตัวของตัวเอง มีอยู่สมัยหนึ่งเรามีผู้นำเกิดขึ้นซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน แต่วันนี้เวลาผมไปต่างประเทศไม่กล้าบอกว่าเป็นคนไทยเพราะอาย เนื่องจากอยู่ระดับ 7 ของอาเซียน ซึ่งเราไม่สามารถต่อลองกับใครได้เนื่องจากเราไม่อยู่ในระบอบที่ทั่วโลกเขาทำกัน โลกเดินทางไปข้างหน้าทุกวันเราตามเขาไม่ทัน ซึ่งโลกได้เดินไปข้างหน้าแต่เราเดินถอยหลัง ทำแบบนั้นไม่ได้แน่นอนเราต้องเดินตามโลกไปให้ทันด้วย แต่การที่เราจะไปด้วยต้องหาคนมานำไป ไม่ใช่หาคนมาเดินถอยหลัง อันนี้แปรเอาเองแล้วกันว่าพูดถึงใคร พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายเป็นภาษาอีสานว่า "ขอบคุณหลายๆ น้ำใจที่มีให้กันเด้อครับ"

...

ภายหลังปราศรัยเสร็จนายสมชายให้สัมภาษณ์ว่า มีความมั่นใจมากในการเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะยโสธรเป็นเขตเลือกตั้งเก่าของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ครั้งนี้พี่น้องผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาแล้ว ส่วนมากจะรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยจะช่วยได้ ส่วน ส.ส.แต่ละคนก็คัดเลือกคนมีความรู้ความสามารถมาทั้งนั้น อย่างไรก็ตามตนมองเก้าอี้ ส.ส.ในภาคอีสานไว้ประมาณ 90% เพราะเราได้แบบนี้มาตลอด เนื่องจากเราข่วยเหลือพี่น้องชาวอีสานและภาคอื่นๆก็ช่วยเหลือเช่นกัน วันนี้พี่น้องลำบากมาเยอะแล้ว ส่วนในเรื่องความกังวลนั้นตนกลัวแค่ว่าขอให้มีการเลือกตั้งจริงๆ ถึงจะได้เข้ามาทำงานให้บ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากการพบประแกนนำแล้ว ยังได้ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากประชาชนภายในเขตพื้นที่อำเภอเลิงนกทา และตลาดสดแม่ลำใย ซึ่งแม่ค้าพ่อค้าที่ขายของในตลาดได้นำดอกดาวเรืองมาคล้องคอให้พร้อมทั้งขอถ่ายรูปตลอดการลงพื้นที่ หลังจากนั้นได้เดินทางมาพบแกนนำที่พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 ก่อนเดินทางกลับ.