วันหยุดสุดสัปดาห์สวนสัตว์อุบลราชธานีคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่ชม “ลุงบอย” จระเข้น้ำจืดไซส์ยักษ์ หนักกว่า 500 กิโลกรัม ยาวเกือบ 5 เมตร ขณะที่สวนสัตว์ดุสิตส่งมอบจระเข้น้ำเค็มสายพันธุ์หายาก
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สวนสัตว์อุบลราชธานี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างมุ่งหน้าเข้าชมความอลังการของ “ลุงบอย” จระเข้น้ำจืดขนาดใหญ่ อายุ 35 ปี ยาวเกือบ 5 เมตร น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม น้องใหม่โซนแสดงดงเจ้าป่าสวนสัตว์อุบลราชธานี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเพราะเป็นจระเข้น้ำจืดตัวใหญ่ที่สุดในพื้นที่และเป็นดารานักล่าเป็นอันดับต้นๆ รองลงมาจากเสือและสิงโต
นอกจาก “ลุงบอย” จระเข้น้ำจืดแล้ว สวนสัตว์อุบลราชธานี ยังได้รับมอบจระเข้น้ำเค็ม สายพันธุ์หายาก อายุ 20 ปี ยาว 415 เซนติเมตร น้ำหนัก 250 กิโลกรัม จากสวนสัตว์ดุสิตที่ปิดตัวลง โดยทางสวนสัตว์ได้จัดพื้นที่ประชันความหล่ออยู่ตรงข้าม “ลุงบอย” ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เข้าชมทั้งสองสายพันธุ์ได้แบบใกล้ชิด โดยมีเพียงกระจกใสกั้นทำให้เห็นจระเข้แบบชัดเจน
...
ทั้งนี้ทางสวนสัตว์มีความต้องการจัดแสดงในธีม "หนีเสือ ปะจระเข้" ถือเป็นแลนมาร์คอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ลักษณะจระเข้นํ้าเค็มจะมีหัวยาวเพรียว ไม่มีเกล็ดท้ายทอย 4 เกล็ดให้เห็น ขาหลังมีพังผืดยึดนิ้วทั้ง 5 ซึ่งเห็นได้ชัดเจน และพังผืดยาวจดปลายนิ้ว มักอาศัยอยู่ตั้งแต่ฝั่งทะเลตะวันออกของอินเดียถึงฟิลิปปินส์ และทางเหนือของออสเตรเลีย ทางใต้ของไทยและมาเลเซีย โดยปกติแล้วลูกจระเข้น้ำเค็ม กินปลา แมลง ปู กบ ส่วนตัวที่โตเต็มวัยจะกินสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น หมู รวมทั้งคนก็กินได้ รวมถึงมีนิสัยดุร้ายมาก อาศัยอยู่ในที่ลุ่ม หนอง บึง และแม่น้ำที่ไม่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ ซึ่งปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
จระเข้พันธุ์น้ำเค็มจะเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุ 12-15 ปี มีความต้องการสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากจระเข้น้ำจืด ตั้งแต่ต้องการบ่อที่กว้างกว่า ในบางครั้งต้องการน้ำกร่อยหรือน้ำเค็ม ผสมพันธุ์ในฤดูหนาว ผสมพันธุ์ปีละครั้ง ออกไข่ในหลุมดินในช่วงฤดูร้อนหรือต้นฤดูฝน ฟักไข่ในหลุมดินประมาณ 11 สัปดาห์ วางไข่ครั้งละ 60-80 ฟอง ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพบยาว 7 เมตร.