ตร.ค้านประกันตัว “วุฒิ” ผู้ต้องหายิง “เจ๊ยุ เขียงเนื้อ” ผู้การฯย้ำชัดทรัพย์สินไม่ได้หายไปไหน ทุกอย่างยังอยู่ครบ รอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ เอาผิด"ไอ้โม่ง"มือยิงทันที ขณะนี้ตัดเหลือประเด็นชิงทรัพย์
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.2561 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น (ภ.จว.ขอนแก่น) พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ความคืบหน้าทางคดี กรณีคนร้าย 2 คน เข้าไปทำการก่อเหตุชิงทรัพย์ พร้อมใช้อาวุธปืนยิง นางยุพากร บุราณรัตน์ อายุ 44 ปี หรือ"เจ๊ยุ เขียงเนื้อ" เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 162 บ.โนนข่า ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ผ่านมานั้น ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายวุฒิชัย บุราณรัตน์ อายุ 46 ปี น้องสามีของเจ๊ยุ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพลผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตำรวจได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว ซึ่งแม้ว่า ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ แต่พยานหลักฐานต่างๆมัดแน่น ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้อหาใน 6 ข้อหา ขณะที่คนร้ายคนที่ 2 ที่พยานระบุว่า ใช้ผ้าขาวม้าพันรอบศีรษะในลักษณะของไอ้โม่งนั้น พยานหลักฐานต่างๆครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เท่านั้น ก็จะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 2 ได้
“ขณะนี้อาการของ เจ๊ยุ ยังคงน่าเป็นห่วง และยังคงต้องอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันเป็นทีม ละเอียดและรอบคอบทุกขั้นตอน โดยลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานต่างๆมาโดยตลอด ไม่มีวันหยุด เพื่อให้มาซึ่งข้อมูล และหลักฐานจนนำไปสู่การเอผิดผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้การสอบปากคำพยานแวดล้อม พยานปากสำคัญและการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุและโดยรอบบริเวณบ้านนั้นเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว จากนี้ไปเข้าสู่ขั้นตอนขอการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะร่องรอยบริเวณประตู หน้าต่าง และในจุดที่เกิดเหตุที่ร่องรอยการต่อสู้ และรอยเท้าองคนร้าย ทั้งหมดจะต้องรอผลการตรวจสอบในภาพรวม เพื่อขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับไอ้โม่งรายนี้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆนั้นขอไม่เปิดเผยรายละเอียดเพราะอยู่ในขั้นตอนและแนวทางการสอบสวนทั้งหมด”
...
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า สำหรับทรัพย์สินของเจ๊ยุ นั้น ขณะนี้ยืนยันชัดเจนว่า ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ครบ ประกอบด้วยเงินสดที่ยังคงอยู่อยู่ในรถของสามีเจ๊ยุ และทองคำรูปพรรณก็ยังคงอยู่กับตัวเจ๊ยุ มีเพียงสร้อยข้อมือซ้ายที่เป็นทองคำรูปพรรณที่เจ้าหน้าที่พบเพียงตะขอตกอยู่ ซึงในประเด็นนี้ต้องสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายน่าจะหยิบไปด้วย เนื่องจากพฤติกรรมและประเด็นของการก่อเหตุครั้งนี้ตำรวจตัดเหลือเพียงประเด็นของการชิงทรัพย์เท่านั้น ส่วนคนร้ายคนที่ 2 ที่ยังคงหลบหนีนั้นจะเป็นคนใกล้ชิดหรือบุคคลใด ต้องรอความชัดเจนในภาพรวมก่อนเพราะตำรวจไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากกว่านี้ เนื่องจากกระทบกับสำนวนของการสอบสวน และขณะนี้ตำรวจทั้งจาก บก.สส.ภ.,ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.บ้านไผ่ ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ และเต็มขีดความสามารถเพื่อเร่งจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบทุกคน