วันนี้ วันออกพรรษา 2561 ตรงกับ 15 ค่ำเดือน 11 ประชาชนจำนวนมากเร่ิมทยอยเข้าพื้นที่ จ.หนองคาย บึงกาฬและนครพนม ร่วมงานออกพรรษา ไหลเรือไฟและปักหลักดูบั้งไฟพญานาค ที่จะขึ้นจากแม่น้ำโขงทุกๆ ปี...

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ที่ จ.นครพนมคึกคักต่อเนื่อง มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น หลังจากมีการเปิดงานตั้งแต่วันที่ 17-25 ต.ค. เพื่อรอชมการประกวดไหลเรือไฟ คืนไฮไลต์ วันที่ 24 ต.ค. ส่งผลดีให้เศรษฐกิจการค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ถูกจับจองเต็ม ซึ่งทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน มีเงินหมุนสะพัดปีละกว่า 100 ล้านบาท

พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุลเกียรติ ผกก.ตรวจคนเข้าเมือง จ.นครพนม ได้ระดมปล่อยแถว จนท.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเสริมกำลัง วันละประมาณ 100 นาย เตรียมพร้อมบริการประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมคุมเข้มการกระทำผิดกฎหมาย

จ.หนองคาย นายกองตรีธวัชชัย กงเพชร ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.หนองคาย นำ จนท.อาสารักษาดินแดน กางเต็นท์บริเวณสนามหน้าอาคารอำนวยการ ภายในกองร้อยอาสารักษาดินแดน ซึ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในช่วงวันออกพรรษา และไม่สามารถหาที่พักได้ เนื่องจากโรงแรม รีสอร์ตต่างๆ ถูกจับจองเต็มหมดแล้ว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ขอเข้าพักกางเต็นท์กับทางกองร้อยบางคนนำเต็นท์มากางเอง นอกจากนี้ ยังได้เตรียมที่นอน หมอน มุ้ง ไว้บริการภายในอาคารเรือนนอน สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกนอนเต็นท์ โดยมีห้องน้ำไว้ให้บริการ มี สถานที่จอดรถกว้างขวาง พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

จ.บึงกาฬ ตั้งแต่วันปิยมหาราชซึ่งเป็นวันหยุดก่อนออกพรรษา 1 วัน นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มเดินทางเข้าสู่ จ.บึงกาฬ เพื่อหาที่พักรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 ต.ค. ทำให้การจราจรบนถนนสายบึงกาฬ- ปากคาด มีรถยนต์หลั่งไหลจำนวนมาก ที่พักถูกจอง เต็มหมด บางคนต้องไปพักจังหวัดใกล้เคียง

...

อย่างไรก็ตาม หน่วยราชการเตรียมสถานที่กางเต็นท์ริมฝั่งโขง หน้าเทศบาลตำบลบึงกาฬ ที่วัดอาฮงศิลาวาส ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ ประชาชนเข้ามาจับจองพื้นที่ บริเวณสะดือแม่น้ำโขง ที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุด.