จากชีวิตลูกชาวนา หลังจบการศึกษาจึงคิดนำความรู้สร้างประโยชน์ ให้ครอบครัวและถิ่นเกิด...!
ปัจจุบันมีตัวอย่างให้เห็นต่อเนื่อง หนึ่งในนั้น คือ นายรุ่งสุริยา ศรีทะวงษ์ อายุ 41 ปี เรียนจบครูภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ แต่ระหว่างรอสอบ บรรจุเข้ารับราชการครู ได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทยานยนต์
จากนั้นจึงเปลี่ยนแนวคิดการเป็นครู เมื่อมีความรู้เรื่องการกลึงโลหะ มีรายได้ดีขึ้น จึงลาออกมาตั้งบริษัท อาศัยรับงานมา จ้างให้คนอื่นทำ เมื่อกิจการ ไปได้ดี เก็บเงินได้มากพอ ได้เดินตามฝันลูกชาวนาที่อยากมีฟาร์มวัว
หลังจากกลับบ้านปรึกษากับพ่อแม่ ซึ่งมีที่ดิน 30 ไร่ จึงตัดสินใจลงทุนเปิด รุ่งแสงสว่างฟาร์มวัว เลี้ยงตามหลักวิชาการ กลางทุ่งกุลาร้องไห้ ริมถนนสายเกษตรวิสัย-ท่าตูม บ้านแสนสี ต.ดงครั้งน้อย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
แต่โชคไม่เข้าข้าง ราคาวัวตกต่ำ ช่วงรอราคาขยับตัว ต้นปี 2561 เมื่อมีผู้แนะนำให้เปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรฟาร์ม ได้ลงทุนปรับพื้นที่ให้มีบ่อเลี้ยงปลา นาข้าว สร้างและตกแต่งพื้นที่และอาคารแนวคาวบอย
แนวคิดนี้ เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิถีการเลี้ยงวัว ปลูกข้าว เลี้ยงปลา และทิวทัศน์สวยงาม นอกจากนี้ยังมีบ้านคาวบอย หอคอย สะพานไม้ไผ่ทอดผ่านนาข้าวไปยังกระท่อมมุงฟางกลางทุ่งนา
เอาใจนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพสวยงาม แต่เหนือสิ่งอื่นใดอยากให้คนในครอบครัวมีรายได้ไปด้วย จึงสร้างร้านอาหาร ร้านกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยวชมทุ่ง และกาแฟชมวัว เป็นสูตรเฉพาะของฟาร์ม
นอกจากนี้ มีบริการเช่ารถจักรยานสามัคคี คันละ 20 บาท รถเอทีวี 50 บาท นักท่องเที่ยวสามารถขี่เข้าชมฟาร์มได้ฟรีทุกวันแบบไป-กลับ เพราะยังไม่มีที่พักไว้รองรับจนกว่าจะมีเสียงเรียกร้อง
...
เมื่อนั้นชีวิตต้องดิ้นสู้ ในอนาคตอาจลงทุนสร้างอาคารที่พักและใช้ จัดการประชุมสัมมนาเพิ่มเติมตามเสียงเรียกร้อง รวมทั้งเพื่อเดินตามฝันของลูกชาวนา ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง
ตามแนวคิดเที่ยวเชิงเกษตรฟาร์ม ได้สัมผัสวิถีชีวิตในชนบท ผสมผสานกับแนวความนิยมสมัยนี้...!
สุพจน์ หินกอง