หนูน้อยวัย 10 ขวบ จุดประทัดลูกบอลระเบิดใส่มือ ทำให้กระดูกนิ้วแตก และนิ้วกลางขาดพิการถาวร โดยนับเป็นรายแรกเทศกาลออกพรรษาของ จ.อุดรธานี...
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2561 ที่ตึกรวมเมตตาธรรม 2 (ชาย) โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เดินทางเข้าเยี่ยมสอบถามอาการ ด.ช.นลธวัช หรือน้องต้นหลิว มารศรี อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านฝาง ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บจากการเล่น “ประทัด” ถูกส่งตัวจาก รพ.บ้านดุง เข้ารับการผ่าตัดนิ้วและมือขวา นอนพักรักษาตัวอยู่รอดูอาการ โดยมี นพ.สมควร ภารถีรุจิรา เป็นแพทย์รักษา
นางนงนุช โพธิสาร อายุ 37 ปี แม่น้องต้นหลิว เฝ้าดูแลอาการลูกชายอย่างใกล้ชิด และเล่าว่าเป็นช่วงปิดภาคเรียน ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายขอมานอนที่บ้านยาย แค่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะที่นั่นจะมีเพื่อนเล่นเยอะ และช่วงนี้ใกล้ออกพรรษา มีเด็กและวัยรุ่นเริ่มเล่นประทัดแล้ว เวลา 20.00 ทุ่มวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ลูกชายเล่นจุดประทัดบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลจึงรู้ว่าบาดเจ็บมากถึงพิการ สอบถามรู้ว่าเล่นกับเพื่อนรุ่นพี่ โดยเอาประทัดมาแกะรวมกัน ลูกชายเป็นคนจับ ให้รุ่นพี่เป็นคนจุด ประทัดแตกใส่มือจนนิ้วกลางข้างขวาขาด ฝากไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้ดูแลบุตรหลานอย่าเล่นประทัด ในช่วงนี้มากๆ ด้วย
...
น้องต้นหลิว กล่าวว่า เคยเล่นประทัดในปีที่แล้ว ก็เป็นประทัดธรรมดา เล่นแบบเอาไปวางไว้แล้วจุด ปีนี้เพื่อนรุ่นพี่ 2-3 คน ชวนกันไปซื้อประทัดที่ตลาดในตัวอำเภอบ้านดุง ซื้อประทัด “ลูกบอล” 10 ลูกๆ ละ 1 บาท เอากลับมาเล่นที่บ้าน โดยเพื่อนรุ่นพี่เป็นคนมัดรวมประทัด ให้มีเสียงดังกว่าเดิมเรียกว่า “ซีโฟร์” ให้ตนเป็นคนจับ รุ่นพี่เป็นคนจุด แต่ยังไม่ทันโยนก็ระเบิดก่อน รู้สึกเจ็บและตกใจมากที่สุด ต่อไปจะไม่เล่นอีกแล้ว
ด้าน นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า เด็กถูกประทัดบาดเจ็บรุนแรง นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง กระดูกแตก, นิ้วกลางขาดออก 1 ข้อนิ้ว และฝ่ามือมีบาดแผลลึก บาดแผลสามารถรักษาให้หายได้ แต่ข้อนิ้วกลางขาดถือว่า “พิการถาวร” ซึ่งภาพเด็กๆ บาดเจ็บจากประทัด จะเข้ามารับการรักษาทุกปีช่วงออกพรรษา ส่วนรายนี้ถือเป็นรายแรกของปี ซึ่งแด็กบอกว่าเอาประทัดมาแกะออก เอามารวมกันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก
"ผู้บาดเจ็บจากประทัดอายุระหว่าง 5-15 ปี เข้ารับการตรวจรักษามากที่สุด ส่วนใหญ่จะเกิดที่มือ รุนแรงถึงขั้นนิ้วขาดพิการ รองลงมาคือแขน และที่ รพ.อุดรธานี ยังเคยมีประวัติประทัดถูกที่ดวงตา รุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอด การป้องกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้น จะดีกว่าการมารักษาแบบนี้ ต้องช่วยกันกับทุกภาคี เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน สถานศึกษา ที่ต้องเฝ้าระวังเด็กๆ ของเรา ตลอดจนทางราชการ ที่กำกับการอนุญาตจำหน่าย ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ก็พยายามเร่งรัดในเรื่องนี้อยู่" ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.ศูนย์อุดรธานี เก็บสถิติผู้บาดเจ็บจากประทัด ที่เริ่มรุนแรงมากในปี 2555-2558 รวมแล้วมากถึง 488 ราย แม้คณะแพทย์จะร่วมกับภาคีรณรงค์ จนในปี 2559 เริ่มลดลงเมื่อมีประกาศห้ามขายประทัดบางชนิด อาทิ ลูกบอล เหลือผู้บาดเจ็บเพียง 41 ราย และในปี 2560 เหลือเพียง 23 ราย นอกจากนี้สถิติยังเห็นได้ชัดว่า ประทัดลูกบอลมีความรุนแรงมาก เพราะผู้บาดเจ็บ 81.77 เปอร์เซ็นต์เกิดจากประทัดลูกบอล ที่เหลือเป็นประทัดอื่นๆ อีก 8 ชนิด โดยผู้บาดเจ็บจนพิการรายแรกปีนี้ ก็เกิดจากประทัดลูกบอล.