สาวขอนแก่น บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม เอาผิดหมอรพ.ที่ชุมแพลืมผ้าก๊อซไว้ในท้องพี่ชายตอนผ่าตัดรักษาไต เชื่อเป็นสาเหตุให้พี่ตาย เผยด้วยความไม่รู้จึงเซ็นหนังสือประนีประนอมที่ทางรพ.ขอจ่ายชดเชย4หมื่น 

เวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายวสันต์ ชูชัย ทนายความอาสา ประจำ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นางบุญถม ลายภูเขียว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/3 ม.3 ต.ภูห่าน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีแพทย์โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น บกพร่องในการรักษา เป็นสาเหตุให้ นายแอ๊ด ลายภูเขียว อายุ 53 ปี เสียชีวิต เมื่อวานที่ผ่านมา ( 24 ก.ย.) 

นางบุญถม กล่าวว่า การที่ครอบครัวตัดสินใจเข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากการรักษาที่บกพร่องของทีมแพทย์ จนทำให้นายแอ๊ด ซึ่งเป็นพี่ชายเสียชีวิต โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พี่ชายมีอาการปวดท้อง เป็นไข้ จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในอ.ชุมแพ โดยทีมแพทย์ได้ทำการรักษาและระบุว่าเป็นโรคเนื้องอกในไต แพทย์จึงมีคำสั่งให้รักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาตามวิธีทางการแพทย์ โดยนอนพักที่โรงพยาบาลได้ 3 วัน แพทย์จึงมาพบญาติและบอกว่าพี่ชายเป็นเนื้องอกในไต ต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งญาติก็ได้ให้พี่ชายทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามหลักวิธีทางการแพทย์ จนกระทั่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเพื่อไปพักฟื้นดูอาการ จึงพากันกลับบ้านที่ อ.สีชมพู

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ช่วงกลางเดือน ก.ค. พี่ชายอาการทรุด ปวดท้อง รับประทานอะไรไม่ได้ ครอบครัวจึงนำตัวส่ง รพ.สีชมพู เพื่อทำการรักษา ซึ่งทีมแพทย์ รพ.สีชมพู ได้อัลตราซาวด์ท้องก็พบผ้าก๊อซอยู่ภายในท้อง จึงรีบทำเรื่องส่งตัวไปยัง โรงพยาบาลเดิม(ในอ.ชุมแพ) ที่ทำการรักษาก่อนหน้านี้

...

“พี่ชายถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแห่งเดิมที่ทำการผ่าตัด ทีมแพทย์ก็รีบทำการผ่าตัดเอาผ้าก๊อซออกและทำการรักษาทันที แต่พี่ชายก็ยังมีอาการทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด ต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ในห้องไอซียู 13 วัน ก่อนที่แพทย์จะให้ออกมาพักฟื้นที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลอีก 2 วัน จากนั้นแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งที่อาการของพี่ชายยังคงน่าห่วง โดยก่อนที่จะอนุญาตให้กลับบ้านนั้น แพทย์เจ้าของไข้ ได้มีการทำเอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเขียนขึ้นที่โรงยาบาลดังกล่าว โดยเนื้อหาระบุว่าเป็นการช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายในกรณีที่ทำการผ่าตัดรักษาบกพร่อง เป็นเหตุให้ผู้ป่วยคือพี่ชายของตัวเองนั้นได้รับความเสียหายและต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอีกครั้ง โดยโรงพยาบาล และแพทย์ ได้ชดเชยเงินให้ 40,000 บาท ซึ่งญาติไม่ทราบถึงข้อกฎหมาย จึงลงนามในเอกสารดังกล่าวเพราะโรงพยาบาลบอกว่าเป็นค่าชดเชยจากการรักษาที่บกพร่องกรณีผ้าก๊อซอยู่ในท้อง แต่เมื่อพี่ชายกลับมาบ้านพักอาการก็ทรุดลง เดินไม่ได้ และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 ก.ย."

ทั้งนี้ ทางครอบครัวยังคงไม่มีการดำเนินการใดๆก่อนตัดสินใจปรึกษาทนายความ และเดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและชดเชยค่าเสียหายจากการรักษาดังกล่าว เพราะขณะนี้พี่ชายได้เสียชีวิตลงแล้วจากการรักษาของทีมแพทย์ ซึ่งนอกจากการที่ต้องการให้แพทย์แสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ยังคงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งการเรียกร้องค่าเสียหายจากการักษาดังกล่าวเป็นเงิน 300,000 บาท แยกเป็นค่าจัดการศพ 100,000 บาท และ ค่าเสียหาย 200,000 บาท โดยหวังว่าศูนย์ดำรงธรรมจะให้การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่ห่างไกลตัวเมือง

ขณะที่นายวสันต์ ชูชัย ทนายความอาสา ประจำ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การที่ครอบครัวและทีมงานฝ่ายกฎหมาย เข้ายื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรมขอนแกนดังกล่าวนี้ เพื่อต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรมในฐานะที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีการเจรจาร่วมกันในทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและเป็นที่พอใจร่วมกันของทุกฝ่าย รวมทั้งเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยจากนี้ไปคงเป็นขั้นตอนของศูนย์ฯในการนัดทุกฝ่ายมาร่วมหารือกัน ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน ส่วนคดีความนั้นต้องรอผลการพิสูจน์อีกครั้ง เพราะหากเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นจากการรักษาจริงแพทย์เจ้าของไข้ ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำการประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ครอบครัวของผู้เสียหายยังคงเก็บศพของผู้ตายไว้จนกว่าการตรวจสอบ จะแล้วเสร็จ