3 แม่ลูกเดินเล่นสวนสาธารณะกลางเมือง ลูกชายพลัดตกสระน้ำแม่โดดช่วยก่อนจมหาย ลูกสาวอีกคนลื่นตกน้ำแต่คนโดดช่วยนำร่างขึ้นมาปั๊มหัวใจรอดหวุดหวิด ส่วนแม่ลูกตาย 2 ศพ...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ศรีอำนาจ จอมแก้ว รองฯ สว.สส.สภ.เมืองอำนาจเจริญ รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำที่สวนสาธารณะมิ่งเมือง ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จึงประสานสมาคมกู้กัยและนักประดาน้ำร่วมตรวจสอบเหตุ 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุที่สระน้ำกลางสวนสาธารณะ เป็นสระซีเมนต์ขนาดใหญ่ทำเป็นรูปทรงต่างๆ พบพลเมืองดีกำลังช่วยปั๊มหัวใจเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่ได้ช่วยขึ้นมาจากน้ำในขณะที่กำลังหมดสติ โดยเด็กหญิงคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือ ด.ญ.นิศรา ปุ่มหล้า อายุ 5 ขวบ จากการสอบถาม นายสวิตส์ จันทร์ถนอม อายุ 21 ปี พลเมืองดี ที่ผ่านมาพบเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่มาถึงบริเวณสระน้ำพบเด็กหญิงกำลังจะจมน้ำอยู่ในสระ จึงได้รีบกระโดดลงไปช่วย แล้วพาขึ้นมาให้เพื่อนที่อยู่บนฝั่งช่วยรับขึ้นไป ขณะนั้นเด็กหญิงหมดสติจึงได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ กระทั่งฟื้น 

...

หลังจากรอดชีวิตเด็กหญิงคนดังกล่าว เล่าว่า ได้มาเที่ยวสวนสาธารณะพร้อมกับแม่และพี่ชายซึ่งเป็นญาติ วัย 5 ขวบ ทันใดนั้นพลเมืองดีจึงถามว่า แล้วแม่หนูอยู่ไหน เด็กหญิงชี้มือไปที่บ่อน้ำ บอกว่าแม่อยู่ในบ่อน้ำ พลเมืองดีจึงได้โทรแจ้งตำรวจและกู้ภัยเพื่อมาช่วยค้นหา

หลังค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กชาย ทราบชื่อ ด.ช.ยศพัฒน์ ปุ่มหล้า อายุ 5 ขวบ และหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อคือ นางมุกดา ปุ่มหล้า อายุ 45 ปี จมอยู่ก้นสระจึงได้นำร่างของทั้งคู่ขึ้นมา และทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ประมาณ 5 นาทีแต่ไม่เป็นผล จากนั้นจึงได้นำทั้งคู่ ส่ง รพ.อำนาจเจริญ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของทั้งคู่ไว้ได้

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ หญิงวัยกลางคนได้ขับรถยนต์มาจอดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ กับสระน้ำ จากนั้นเด็กทั้ง 2 คนได้ลงจากรถและวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ จู่ๆ เด็กผู้ชายได้ลื่นตกลงไปในสระน้ำ หญิงคนดังกล่าวเห็นจึงรีบกระโดดลงไปช่วย ก่อนที่เด็กหญิงที่อยู่บนฝั่งจะลื่นตกลงไปด้วยอีกคน จนกระทั่งมีพลเมืองดีผ่านมาพบเข้า และได้ช่วยเด็กหญิงไว้ได้ทัน

หลังเกิดเหตุสลดครั้งนี้ ชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความปลอดภัยของสระน้ำในสวนสาธารณะแห่งนี้ โดยส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สระน้ำแห่งนี้ค่อนข้างลึกและลาดชัน หากตกลงไปยากที่ขึ้นมาเองได้ อีกทั้งสระแห่งนี้ไม่มีราวเหล็กกั้น ประกอบกับเป็นสระซีเมนต์เวลาฝนตกจึงมีตะไคร่น้ำเกาะตามขอบ ส่งผลให้เกิดการลื่นและอาจพลัดตกลงไปได้ง่าย ชาวบ้านจึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยหาแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำรอยขึ้นอีก.