อาชีพแปลกทำเงิน ชาวบ้านตาล ในนครพนม ไม่หวั่นน้ำท่วม พลิกวิกฤติรับซื้อไส้เดือน นำไปแปรรูปตากแห้ง ส่งออกขายจีน-ไต้หวัน โกยเดือนละแสน ยิ่งน้ำท่วมเป็นโอกาสทอง ไส้เดือนอพยพหนีน้ำ จำนวนมาก...
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. จากสถานการณ์น้ำโขงเอ่อท่วมล้นตลิ่ง พื้นที่จ.นครพนม ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมขังบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายหนักสุดในรอบ 20 ปี สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ไม่สามารถทำการเกษตรสร้างรายได้
ขณะที่ชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้สร้างวิกฤติเป็นโอกาส หลังเจอน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 เดือน ด้วยการรับซื้อไส้เดือน เนื่องจากไส้เดือนมีการอพยพหนีน้ำขึ้นมาจากพื้นดินเป็นจำนวนมาก จากปกติตามธรรมชาติ ไส้เดือนจะออกมาในช่วงฤดูหนาวที่มีหมอกหนาจัด รวมถึงช่วงปลายฝนต้นหนาว เพื่ออพยพย้ายที่อยู่ แต่หลังจากน้ำท่วมหลายพื้นที่ ทำให้ไส้เดือนจำนวนมากอพยพหนีน้ำ จึงเป็นโอกาสทองของชาวบ้าน ได้มีอาชีพเสริมในการเก็บไส้เดือนมาขาย
สำหรับพื้นที่บ้านตาล ที่ผ่านมาชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ยึดอาชีพเก็บไส้เดือนมานานกว่า 20 ปี สร้างเงินหมุนเวียนปีละหลาย 100 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงน้ำท่วม ทำให้สามารถแปรรูปไส้เดือนก่อนฤดูกาล มีการนำไส้เดือนมาชำแหละ ตามวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน และนำไปตากแห้ง ก่อนนำไปส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้า ราคาประมาณ กิโลกรัมละ 250 -300 บาท บางครอบครัวมีรายได้ เดือนละเป็นแสน สามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ ยาวไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว
ด้านนางนิศารัตน์ ปาทา อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า อาชีพแปลกดังกล่าว สืบทอดกันมากว่า 30 ปี หลังมีชาวบ้าน กลุ่มหนึ่งไปติดต่อกับพ่อค้าชาวจีน และไต้หวัน เพื่อหาไส้เดือน ปลิง ตุ๊กแก แปรรูป ส่งขายตามดูกาล ส่วนปลายฝนต้นหนาว จะเป็นไส้เดือน แต่ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง หลังน้ำท่วมหนัก ทำให้ไส้เดือนอพยพหนีน้ำ ชาวบ้านจึงสามารถเก็บไส้เดือนขายมาแปรรูป ก่อนฤดูกาล และมีจำนวนมากในรอบหลายปี โดยจะมีทั้งคนรับซื้อมาแปรรูปเอง รวมถึงเป็นนายหน้ารับซื้อไส้เดือนสด มาขายต่อให้ชาวบ้านที่ทำแปรรูป ในราคาประมาณ กิโลกรัมละ 15 -20 บาท
...
สำหรับขั้นตอนการแปรรูปมีการสืบทอดกันมา โดยการชำแหละเอาดินออก ก่อนนำไส้เดือนไปตากซึ่งจะแห้งเร็วขึ้น จากนั้นนำไปแช่ล้างด้วยน้ำเปลือกไม้ประดู่ ให้สะอาด เป็นการล้างเมือกไส้เดือน และนำไปตากแดดจนแห้ง ถ้าแดดจัดประมาณ 1 วัน หากไม่มีแดดฝนตก จะใช้เตารมควัน ก่อนนำส่งขายกิโลกรัมละประมาณ 250 -300 บาท เพื่อนำส่งขายไปประเทศจีน และไต้หวัน ซึ่งนำไปปรุงเป็นยาตามความเชื่อ
ขณะที่นายเป่ง วงศ์ษาเนาว์ อายุ 67 ปี เผยว่า ปีนี้มีไส้เดือนมากกว่าทุกปี และได้เริ่มแปรรูปก่อนฤดูก่อน หลังน้ำท่วม ทำให้ไส้เดือนหนีน้ำออกมาจากผิวดิน โดยจะนำไส้เดือนสดมาชำแหละเอาดินออก นำไปตากแดดจนแห้ง ซึ่งไปรับซื้อไส้เดือดสดมาจากพ่อค้าคนกลาง เพราะไม่ได้ไปหาเอง ราคากิโลกรัมละ 20- 25 บาท เพื่อนำมาแปรรูปตากแห้งขายกิโลกรัมละ 250-300 บาท บางวันสามารถแปรรูปสูงสุด 10 กิโลกรัม หรือบางรายสามารถทำได้ 20 -30 กิโลกรัม.