สองหนุ่มคู่เขยอยู่ที่มุกดาหาร ชวนกันออกไปปักเบ็ดหาปลาหายไปทั้งคืน พอเที่ยงอีกวัน มีคนไปเจอศพสภาพร่างไหม้ตายอยู่ใกล้กระท่อมนา คาดเข้าไปหลบฝน ถูกฟ้าผ่าลงมาตามต้นไม้ ตายคาที่ทั้งคู่
เวลา 13.00 น.วันที่ 13 ก.ย. ร.ต.อ.บรรดิษฐ์ ทองมี พงส.สภ.เมืองมุกดาหาร รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าจำนวน 2 คน เสียชีวิต ที่บริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาด้านทิศตะวันตก บ้านท่าไคร้ หมู่ 6 ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร ไปตรวจที่เกิดเหตุ

พบศพคนแรกชื่อ นายวรวิทย์ สุขตะกั่ว อายุ 37 ปี สวมชุดสีส้ม ที่อยู่ เลขที่ 90 หมู่ 2 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นอนหงายอยู่บนแคร่ในกระท่อม และศพนายบุญชู โคตรสขึง อายุ 45 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำ ที่อยู่ 282 หมู่ 6 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร สภาพนอนคว่ำเสียชีวิตโดยกระเด็นออกจากแคร่ในกระท่อมตกลงพื้นดิน จากการพลิกศพ พบมีรอยไหม้ตามร่างกายของผู้ตายทั้ง 2 คน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้าย

...
สอบถามญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสอง ได้ความว่า ทั้งคู่ คือนายวรวิทย์ สุขตะกั่ว และนายบุญชู โคตรสขึง เป็นเขยพี่เขยน้องกัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ได้ชวนกันไปใส่เบ็ดหาปลาในทุ่งนา โดยทั้งคู่ได้รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไป จนเช้าทางของบ้านทั้ง 2 ก็ไม่ได้สงสัยอะไรเลย กระทั่งเวลาเที่ยงได้มีนายสมชาย ทองเภา อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน มาบอกว่าพบศพนายวรวิทย์ และนายบุญชู ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตแล้ว โดยมีชาวบ้านที่ไปเกี่ยวข้าวพบศพอยู่ที่กระท่อมนาดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากพบร่องรอยไหม้ตามร่างกายของผู้ตายทั้งคู่ ยังพบรอยฉีกของเปลือกต้นไม้อยู่ข้างกระท่อม คาดว่าขณะฝนตก ผู้ตายทั้งสอง ได้พากันนั่งหลบที่แคร่ในกระท่อมโดยที่นายวรวิทย์ สุขตะกั่ว นั่งหันหลังพิงต้นไม้ ส่วนนายบุญชู นั่งข้างกัน ขณะนั้นได้เกิดฝนตกหนักมีฟ้าคะนอง และฟ้าได้ผ่าลงที่ต้นไม้ถูกร่างนายวรวิทย์อย่างแรงกระเด็นกระแทกนายบุญชูที่นั่งอย่ข้างกันจนร่างกระเด็นออกจากกระท่อมตกลงพื้นดินโดยไม่รู้ตัว เป็นเหตุให้ทั้ง 2 เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป