มีมติ ให้เขื่อนน้ำอูน สกลนคร ปรับลดการระบายน้ำ ผ่านท่อกาลักน้ำจาก 50 ชุด ลงเหลือ 30 ชุด หลังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ส่วนบึงกาฬ น้ำโขงลด แต่น้ำสงครามระดับเพิ่มต้องอพยพชาวบ้านลงเรือ   

วันที่ 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสกลนคร จากการที่เขื่อนน้ำอูนเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนเนื่องจากระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับเก็บกัก โดยการติดตั้งท่อกาลักน้ำจำนวน 50 ชุด เพิ่มอัตราการระบายออกจากการระบายปกติผ่านประตูระบายน้ำ ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ ทั้งพื้นที่การเกษตร นาข้าวหลายหมู่บ้าน ตลอดจนบ้านเรือนและโรงเรียนบางแห่ง

ล่าสุด เริ่มมีสัญญาณที่ดี หลังจากที่เขื่อนน้ำอูนยอมรับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.สกลนคร ที่เห็นสมควรให้มีการปรับลดอัตราการระบายน้ำลง โดยนายศรชัย ศรีสถาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.สกลนคร เมื่อวานนี้ (30 ส.ค. 61) จากการพิจารณาระดับน้ำในเขื่อนน้ำอูน ปริมาณฝนที่ลดลง และผลกระทบท้ายเขื่อนจากการระบายน้ำ จึงมีมติเห็นสมควรให้เขื่อนน้ำอูนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนลง เพื่อลดระดับความเสียหายในพื้นที่ท้ายเขื่อน หลังจากที่ผ่านมาเริ่มส่งผลกระทบมากขึ้น

...

“โดยที่ประชุมมีมติให้เขื่อนน้ำอูนปรับลดการระบายผ่านท่อกาลักน้ำจากทั้งหมด 50 ชุด ลงเหลือ 30 ชุด เริ่มตั้งแต่เช้าวันนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราการระบายน้ำออกจากเขื่อนผ่านระบบกาลักน้ำลดลงเหลือประมาณวันละ 1.2 ล้าน ลบ.ม. จากเดิมที่อัตรา 2 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงในการลดปริมาณน้ำที่ระบายลงลำน้ำอูน ขณะที่การระบายผ่านประตูระบายน้ำยังคงดำเนินการตามปกติ

ทั้งนี้ การปรับลดท่อกาลักน้ำเหลือ 30 ชุด น่าจะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดจากผลกระทบในพื้นที่ท้ายเขื่อนเริ่มคลี่คลาย และเข้าสู่ภาวะปกติภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้ หากไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนอีกในระยะนี้

จ.บึงกาฬ เช้าวันนี้ 31 ส.ค. ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ที่อำเภอปากคาดลดลง 10 ซม. ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬลดลง 3 ซม. ระดับน้ำอยู่ที่ 13.25 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ 0.75 ม. แต่กลับกันน้ำในแม่น้ำสงคราม ที่อำเภอพรเจริญ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งสูงกว่าระดับขอบตลิ่ง ประมาณ 1.20 ม. และจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่มีน้ำเอ่อล้นท่วมถนนรอบหมู่บ้านซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ (ท่วมซ้ำซาก) ระดับน้ำประมาณ 1.42 ม. ระยะทางยาวประมาณ 200 ซึ่งส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม

ที่บ้านสันติสุข ม.5 ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ น้ำเอ่อเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนเพิ่มอีก 2 หลัง ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ และฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินมีค่าไปยังพื้นที่ปลอดภัย ส่วนชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์

ขณะที่นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอเมืองบึงกาฬ นำกำลังฝ่ายปกครอง ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ อบต.บึงกาฬ เทศบาลตำบลวิศิษฐ์ และผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น นำรถแบ็กโฮ ตักดินใส่ถุงบิ๊กแบ็ก สร้างแนวป้องกันน้ำ บริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัด ตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากหนองกุดทิง ไหลเอ่อเข้าไปท่วมภายในศาลากลางจังหวัด ซ้ำอีก หลังน้ำในหนองกุดทิง มีระดับสูงขึ้น คาดหากสร้างแนวป้องกันเสร็จน้ำในศาลากลางจะมีปริมาณลดลง