น้ำใจคนไทยทุกฝ่ายยังระดมความช่วยเหลือไปยังพี่น้อง สปป.ลาว โดยชมรมทูบีนัมเบอร์วันโคราช บริจาคสิ่งของข้าวเหนียวหลายร้อยชุด พร้อมเงินช่วย รวมทั้งเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่ชาวอำเภอสมเด็จ กาฬสินธุ์ ได้มอบข้าวสารอาหารแห้งเข้าช่วย ด้านแพทย์ จ.อุบลฯ และทีมกู้ภัย ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอัตตะปือเป็นการด่วน...

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้เกิดความเสียหาย จนทำให้เกิดอุทกภัยในแขวงอัตตะปือ และแขวงจำปาสัก ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว จนทำให้มีประชาชนชาวลาวได้รับผลกระทบจำนวนมากในขณะนี้ และมีน้ำใจของคนไทยหลั่งไหลในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั้น 

ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ตามที่มีการตั้งศูนย์ขอรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาว สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย แต่ยังสามารถบริจาคได้ต่อที่มูลนิธิสว่างเมตตา และมูลนิธิกู้ภัย ฮุก 31 จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 โดยความร่วมมือของจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา และชมรม Korat For the World มีการระดมสิ่งของที่ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาที่มีจิตใจอันดีงามแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากในช่วงวิกฤติอุทกภัยใหญ่จึงพร้อมใจบริจาคกันอย่างคับคั่งล้นหลาม อาทิ เครื่องนุ่งห่ม ข้าวสารอาหารแห้ง ข้าวเหนียว เสื้อผ้า นม ผ้าอนามัย ยารักษาโรค และเงิน โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มที่ใช้แล้วจำนวนมากกองพะเนินจนท่วมหัว โดยหน่วยกู้กัย ฮุก 31 หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา ได้นำใส่รถเพื่อรวบรวมส่งไปช่วยเหลือประชาชนชาว สปป.ลาว ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนักให้เหตุประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นภัยพิบัติวิกฤติร้ายแรง

...

 

ขณะที่ทางชมรมทูบีนัมเบอร์วัน (TO BE NUMBER ONW) จังหวัดนครราชสีมา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล ประธานที่ปรึกษาชมรมฯ นำเจ้าหน้าที่ และสมาชิกชมรมฯ มอบสิ่งของ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวเหนียว จำนวน 500 ชุด และเงินให้กับประชาชนคนยากคนจนลูกเล็กเด็กแดงญาติพี่น้องชาว สปป.ลาวที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ พร้อมเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นได้ด้วยดี 

ที่ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทวีศ้กดิ์ รักษาศิลป์ ผกก.สภ.สมเด็จ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ สภ.สมเด็จ และกลุ่มพ่อค้า ประชาชน อำเภอสมเด็จ ร่วมกันมอบสิ่งของต่างๆ เช่นข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในประเทศลาว (สปป.ลาว) โดยได้เปิดจุดรับสิ่งของบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เป็นการช่วยเหลือจากพ่อค้า ประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอสมเด็จ ซึ่งสิ่งของที่ได้รับมอบมาก็จะเร่งนำไปช่วยเหลือโดยเร็ว

ด้าน นพ.จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ได้นำคณะทำงานและทีมปฏิบัติการช่วยเหลือและออกปฏิบัติการในพื้นที่ โดยศูนย์ EOC ได้ส่งทีมเข้าร่วมปฏิบัติการ มี นพ.พิทักษ์พงษ์ จันทร์แดง เป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการ มีการแบ่งหน้าที่และประเมินสถานการณ์ ส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ จำนวน 3 ทีม ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน ช่าง และเจ้าหน้าที่อื่นๆ รวม 32 คน เข้าปฏิบัติการในจุดอพยพ เมืองสะหนามไซ 1 ทีม และเมืองปากซอง 2 ทีม มอบหมายให้ พญ.จินตนา คำภักดี นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลวารินชำราบ และนพ.ชัยพร บุญศรี นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมเป็นหัวหน้าชุดประเมินสถานการณ์, ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) โดยนพ.ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานีและคณะบุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญร่วมกับงานควบคุมโรคจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี 

ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยวิกฤติ จากโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ โดยชุดแรก ได้ส่งเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ประจำวัน อาหารแห้ง จำนวน 20 ชุด เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม 1 คันรถ ยาชุดน้ำท่วม 5,000 ชุด ผ้าขาวห่อศพ ตามการประสานงานจากหัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงจำปาสัก เพื่อช่วยสนับสนุนเติมเต็มในการช่วยเหลือประชาชน จัดตั้งชุดคัดกรอง และจุดประสานงานไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อคัดกรองผู้ป่วยและประสานความช่วยเหลือ โดยให้โรงพยาบาลสิรินธร เป็นเจ้าภาพหลักในการปฏิบัติการภายใต้การปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์อำนวยการตอบโต้ภัยพิบัติระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้การบัญชาการเหตุการณ์ โดยกลไกการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางสอดคล้องกับการดำเนินงานของส่วนกลางและระดับประเทศ 

ด้านความช่วยเหลือของทีมชุดกู้ภัยไทยได้เเบ่งหน้าที่กันทำเป็น 2 สาย สาย A นำเรือลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัยทางน้ำบริเวณบ้านไซดอนโขง เเขวงอัตตะปือ พบชาวบ้านเป็นเด็กเเละผู้ใหญ่ยังมีชีวิตจำนวน 14 รายติดอยู่บ้านกลางลำน้ำ กู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมาจึงดำเนินการลำเลียงออกมาด้วยความยากลำบากเพราะสภาพเป็นโคลนตม 

...

ส่วนสาย B ได้เดินทางไปที่บ้านตะม้อหยอด เเขวงอัตตะปือ ซึ่งห่างจากปากซองประมาณ 60 กิโลเมตรระยะทางเข้าไปยากลำบากต้องใช้รถกระบะที่มียางสมบูรณ์เเบบเเละรถเล็กจึงจะสามารถเดินทางเข้าไปได้ เเต่ก่อนจะไปถึงบ้านตะม้อหยอดนั้นถนนถูกน้ำจากเขื่อนท่วมทำให้รถยนต์ทุกคันไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ทีมงานปักหลักกันอยู่ที่นั่นเมื่อประเมินสถานการณ์ทราบว่าการที่จะเดินทางไปต่อนั้นจะต้องอาศัยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเข้าไป โดยการข้ามสะพานลิงที่ทางการลาวสร้างไว้ระยะทางจากถนนที่ถูกตัดขาดถึงบ้านตะหม้อหยอดนั้นประมาณ 25 กิโลเมตร จึงได้ทำการประสานผู้นำชุมชนลำเลียงสิ่งเครื่องอุปโภคบริโภคโดยใช้รถคูโบต้าของชาวบ้านในการลำเลียงสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่บนเกาะบ้านตะม้อหยอดไม่ต่ำกว่า 700 ชีวิต ซึ่งมีชาวบ้านหินลาดบ้านท่าหินที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือน้ำท่วมหมดหลังคาเเต่ชาวบ้านบางส่วนอพยพทางเท้าขึ้นมาเพราะต้องการพากันมาหาหมอ บางรายถึงกับเป็นไข้เนื่องจากฝนตก และอากาศแปรปรวน.