สุดเศร้า!! เสียงร้องไห้ระงม 3 ครอบครัว จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ ทีมเหยี่ยวข่าว 7 สี ตกที่ขอนแก่น ต่างทำพิธีขอขมาเจ้าที่-ถอดถอนดวงวิญญาณ เพื่อพาดวงวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน...
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวงเดือน ศรีสุข กำนัน ต.วังแสง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กีรติกร อมรพัฒน์ภาคิน ผกก.สภ.ชนบท ได้นิมนต์พระภิกษุ 1 รูป มาทำการประกอบพิธีขอขมาเจ้าที่ ถอดถอนดวงวิญญาณ และเชิญดวงวิญญาณให้กับ พ.ต.อ.สินสมุทร สินเภตรา ผู้ช่วยนักบิน, นายสำเนา น้อยสกุล ผู้โดยสาร และนายรณกิจ เพชรนิล ผู้โดยสาร ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์แบบยูโรคอปเตอร์ รุ่น AS355NP หมายเลขทะเบียน HS-PNG ของ บ.เฮลิลักค์ เอวิเอชั่น จำกัด ตกบริเวณกลางทุ่งนา บ.หูลิง ม.2 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งเกิดเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนในครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เดินทางมาร่วมในการประกอบพิธีดังกล่าว ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด และพากันร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

โดยพิธีการดังกล่าวนั้นได้แยกการประกอบพิธีออกเป็น 2 จุด คือ บริเวณห่างจากตัวเครื่องบินประมาณ 20 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและทีมแพทย์ได้ยืนยันว่าเป็นร่างของ พ.ต.อ.สินสมุทร ที่เสียชีวิตในจุดดังกล่าว โดย พ.ต.อ.กีรติกร และคนในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนนักบิน โดยเฉพาะบุตรสาว คือ น.ส.สวรรญา สินเภตรา ได้ร่วมกันวางพวงมาลัยบริเวณคันนา รวมทั้งการวางพานขัน 5 เพื่อขอมาเจ้าที่ ขอขมาดวงวิญญาณ ตามการประกอบพิธีถอดถอนดวงวิญญาณและเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน โดยบุตรสาวนั้นอยู่ในอาการเสียใจและถึงกับทรุดลงกับพื้นดินเมื่อเห็นรอยคราบเลือดและลักษณะร่างของคุณพ่อที่เสียชีวิตในจุดดังกล่าว โดยมีคนในครอบครัวคอยปลอบขวัญอยู่ตลอดเวลา
...
จากนั้นญาติจึงขอให้เจ้าหน้าที่นำจอบและเสียมมาขุดหลุมยาวประมาณ 2 เมตร กว้าง 30 ซม. ใกล้กับจุดที่พบร่างของ พ.ต.อ.สินสมุทร จากนั้นจึงได้ขุดเอาดินและหญ้าที่มีรอยคราบเลือดใส่ลงไปในหลุมและกลบด้วยดินอีกครั้งในลักษณะของการฝังศพตามการร้องขอของครอบครัวผู้เสียชีวิต

ในขณะที่ครอบครัวของนายสำเนา และนายรณกิจ รวมทั้งเพื่อร่วมวงการสื่อมวลชน ได้ร่วมกันประกอบพิธีขอขมาเจ้าที่ ถอดถอนดวงวิญญาณและเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 กลับบ้านเช่นกัน โดยได้ร่วมกันประกอบพิธีดังกล่าวในจุดที่พบร่างของทั้ง 2 คน คือห่างจากจุดเครื่องบินตกประมาณ 5 เมตร โดยมีเก้าอี้โดยสารตกอยู่ 2 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ทุกคนนั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ตลอดทั้งช่วงของการประกอบพิธี โดยคนในครอบครัวนั้นได้นำอาหารคาว-หวาน และเครื่องดื่ม ที่ผู้ตายนั้นชอบรับประทานมาใช้ในการประกอบพิธีดังกล่าวด้วย
ตลอดทั้งช่วงของการประกอบพิธีดังกล่าวนี้นั้น ทุกคนล้วนอยู่ในอาการที่เศร้าสลด และเงียบสงัด มีเพียงเสียงร้องไห้ตลอดทั้งช่วงของการประกอบพิธีกรรม แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ, อส., ปภ., อปพร. และสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โดยทั้ง 3 ครอบครัวนั้นไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใดๆ ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับมายัง รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อประสานงานในการรับศพอีกครั้ง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ครอบครัวของกัปตันเสกสรร วรรณา ได้ประกอบพิธีกรรมดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครอบครัวล้วนมีความหวังว่าจะสามารถนำร่างที่ไร้วิญญาณของทั้ง 4 ชีวิตนั้นเดินทางกลับบ้านเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดให้ได้ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.)

มีรายงานว่า กัปตันเสกสรร ครอบครัวต้องการนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.เพชรบูรณ์, นายสำเนา นำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดโพธิ์ศรี อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี และนายรณกิจ นำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ในขณะนั้น พ.ต.อ.สินสมุทร นั้นยังคงรอข้อสรุปจากครอบครัวอีกครั้ง.