แพทย์ มข.เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ก่อนส่งมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี คาดใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.ค.2561 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ท่าอากาศยานขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการสนามบินขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกใน พื้นที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น หลังเข้าสู่วันที่ 2 ของการตรวจสอบหาสาเหตุและการดำเนินการเก็บกู้ซากจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้น โดยต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันตรวจสอบ ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ และจนกว่าการดำเนินการเก็บกู้ซากเครื่องบินจะแล้วเสร็จ โดยที่ในขณะนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นได้ส่งไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ที่ สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นได้เดินทางมาถึง จ.ขอนแก่นแล้ว

“ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันหาข้อมูล จนทำให้เกิดการทำงานอย่างรวดเร็ว ซึ่งในการช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตนั้น ทางจังหวัดจะประสานงานกับทางบริษัทประกันภัยต่างๆ ที่ทางผู้เสียชิวิตได้ทำเอาไว้ ให้ช่วยดำเนินการอย่างรวดเร็ว ส่วนการกู้ซากเครื่องบินเพื่อหาสาเหตุนั้น ได้มอบหมายให้ทางผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงคมนาคม และทางกรมท่าอากาศยาน ช่วยกันหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายนั้นประกอบด้วย นายเสกสรร วรรณา นักบิน, พ.ต.อ.สินสมุทร สินเภตรา ผู้ช่วยนักบิน, นายสำเนา น้อยสกุล ผู้โดยสาร และ นายรณกิจ เพชรนิล ผู้โดยสาร ที่บินมากับเฮลิคอปเตอร์ แบบยูโรคอปเตอร์ รุ่น AS 355NP ทะเบียน HS-PNG ของ เฮลิลักซ์ เอวิเอชั่น จำกัด ได้ส่งตัวมาจาก รพ.ชนบท มาพิสูจน์อัตลักษณ์และตรวจดีเอ็นเอที่ รพ.ศรีนครินทร์แล้วในขณะนี้”

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า รพ.ศรีนครินทร์ ได้รับศพผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกทั้ง 4 ราย เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยแต่ละรายนั้นเจ้าหน้าที่ รพ.ชนบทและเจ้าหน้าที่กู้ภัยนั้น ได้แยกชิ้นส่วนของแต่ละคนออกจากกันมาอย่างชัดเจน จำนวน 4 ห่อ โดยการแยกชิ้นส่วนของแต่ละศพนั้น ได้สังเกตดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ จากเพื่อนผู้สื่อข่าวที่เคยทำงานด้วยกัน และจากหลักฐานที่มีอยู่เช่นบัตรประชาชนในกระเป๋าใส่เงินของผู้ตาย

...

ถึงแม้ว่าทางญาติจะยืนยันด้วยสายตาว่าเป็น ญาติของตนเอง แต่ทางคณะแพทย์ฯ ไม่สามารถให้ญาตินำศพกลับไปบำเพ็ญการกุศลตามความต้องการได้ เพราะต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อให้มีผลในทางกฎหมาย โดยเฉพาะกับการขอรับผลประโยชน์จากการประกันภัย เนื่องจากการเบิกเงินจากทางบริษัทประกันภัยนั้น ต้องมีการตรวจดีเอ็นเอของผู้ตายไปยืนยันด้วย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้นการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์อย่างละเอียดและการพิสูจน์ดีเอ็นเอ นั้นจะต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์ประมาณ 2-4 สัปดาห์ จึงจะสามารถมอบศพให้กับญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้.