เปิดใจ “หมอภาคย์” จบภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า กลับเข้ากรมกองสมชายชาติทหาร ผู้ใต้บังคับบัญชาตบเท้ามอบพวงมาลัยช่อดอกไม้ยกย่อง “หมอแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี วีรบุรุษถ้ำหลวง" โคราช จ่อ จัดต้อนรับใหญ่ 26 ก.ค.
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่กองพันเสนารักษ์ที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พันโทนายแพทย์ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ทำงานที่หน่วยวันแรก หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีผู้ใต้บังคับบัญชานับร้อยนาย รอคอยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจที่ผู้บังคับบัญชาสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทั้งนี้ หมอภาคย์ ได้กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจครั้งนี้ และการฝึกทหารที่ผ่านมา ก็เพื่อความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจแบบนี้

...
พันโทนายแพทย์ภาคย์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงเรื่องภารกิจที่ถ้ำหลวงว่า เหตุการณ์กู้ภัยในถ้ำครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่ทุกคนทุกประเทศ ต้องนำไปศึกษาเรียนรู้ ตนอยากให้มองภาพเหตุการณ์นี้ เป็นเหมือนการต่อภาพจิ๊กซอว์ ซึ่งตนก็เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่ใช้ต่อภาพให้สมบูรณ์เท่านั้น แต่ทุกคนมีความสำคัญทั้งหมด หากขาดใครคนใดคนหนึ่งไป ภารกิจครั้งนี้ก็จะไม่สำเร็จ ทั้งนี้ ตนประทับใจเด็กๆ ทุกคนที่ติดในถ้ำหลวง เด็กทุกคนมีความใสซื่อเดียงสาตามประสาเด็ก ซึ่งทุกคนมีจิตใจดีงาม และความประทับใจของตน คือ ทุกคนเป็นคนมีระเบียบวินัย และตนได้สอบถามเด็กเข้าไปเที่ยวในถ้ำเป็นการเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ ตั้งใจจะทำกิจกรรมเพียง 1 ชั่วโมง แล้วจะกลับออกไป ส่วนตัวโค้ชเอก ก็เป็นคนที่มีจิตใจดีมาก รักเด็กๆ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมา อายุ 24-25 ปี สามารถเป็นศูนย์รวมจิตใจของเด็กๆ ได้ดี และมีการอบรมสั่งสอนเรื่องการแบ่งปันกัน เป็นคนเสียสละ ที่ไม่พูดอะไร เอาอาหารให้เด็กรับประทานตลอด โดยที่ตัวเองแทบไม่ได้กิน ขอให้เด็กกินอิ่มก่อน
ตนยอมรับว่า ตัวโค้ชเอกก็เป็นคนที่มีจิตใจดีมาก รักเด็กๆ และดูแลเด็กๆ ทุกคนเป็นอย่างดี ซึ่งทุกคนที่ติดอยู่ในถ้ำ มีขวัญและกำลังใจที่ดีมาก โดยช่วงระยะทางในการดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือเด็กที่ติดอยู่บริเวณเนินนมสาวในถ้ำหลวง เป็นระยะทางที่ยากลำบากมาก ตนและหน่วยซีลคนอื่นๆ ต้องแบกและใช้ถังออกซิเจน มากถึงคนละ 4 ถัง ดำน้ำติดตัวเข้าไปถึงจะถึงบริเวณเนินนมสาวที่เด็กๆ อยู่ได้ แต่เด็กๆ ทุกคนก็มีสภาพจิตใจ และความพร้อมมากทางด้านร่างกาย ที่จะดำน้ำออกมาจากถ้ำหลวง ส่วนนักดำน้ำต่างชาติทุกคนเป็นมืออาชีพมาก รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร สำหรับพวกเราคงจะต้องไปพัฒนาวิทยาการการดำน้ำเหมือนกัน ส่วนช่วงที่ถึงเนินนมสาวเด็กอยู่รอทีมช่วยเหลือ ก็ประเมินสภาพจิตใจของเด็กแต่ละคน ทุกคนมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยมอยู่แล้ว ตรงนี้น่าจะมาจากโค้ชเอกหลักๆ เลย และไม่คิดว่าจะติดอยู่ในถ้ำยาวนานแบบออกมาไม่ได้ หรือมีการสูญเสีย แต่ทุกคนยังมีความหวังตลอดเวลา ยังเอาหินไปขุดโพรงลึก 5-6 เมตรได้ คือความเข้มแข็งของเด็กๆ และโค้ช และตอนที่อยู่กับเด็กก็พูดคุยแต่เรื่องสร้างสรรค์ เช่น ออกมาจะกินอะไรกัน จะไปเที่ยวไหนกัน แต่มีวิตกกังวลหนักๆ เรื่องเดียว คือ งานที่การบ้านของโรงเรียนที่คั่งค้าง กลัวออกมาจะทำไม่ทันเท่านั้นเอง ตนก็ได้บอกว่าทุกคนดังไปทั่วโลกแล้วนะ ซึ่งทุกคนก็ได้แต่ยิ้มๆ ตามประสาเด็กเท่านั้น

ทั้งนี้ หากสามารถบอกไปถึงจ่าแซมได้ ตนก็จะขอบอกกล่าวดังๆ เลยว่า จ่าแซมเป็นฮีโร่ และอยู่ในดวงใจของคนทั้งโลก ซึ่งจ่าแซมได้รับมอบหมายภารกิจให้นำถังออกซิเจนไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ เพราะหากขาดถังออกซิเจน ภารกิจทั้งหมดก็ไม่มีทางสำเร็จได้เลย เพราะภายในถ้ำต้องการใช้ออกซิเจนเป็นจำนวนมาก และการสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ โดยพลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยซีล ได้กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสีย และเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นการเสียชีวิตที่มีเกียรติ และสมศักดิ์ศรีของมนุษย์กบ
พันโทภาคย์ กล่าวว่า ตนอยากฝากไปถึงเด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี น้องๆ ได้รู้ และได้เห็นความเสียสละของพี่น้องชาวไทย และการเสียสละในครั้งนี้จะทำให้น้องๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยม และเป็นบุคลากรที่สำคัญของประเทศต่อไป ส่วนการที่มีคนพูดว่าตนเป็นหมอที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีนั้น คนที่แข็งแรงก็มีมากมาย ตนก็ขอขอบคุณที่มีคนตั้งฉายาให้ตน ซึ่งก็คงเหมือนกับการ์ตูนที่ตนชอบอ่าน แต่ตนไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี และตนไม่อยากให้ใครมองว่าตนเป็นที่สุดอะไร เพราะมันไม่มีคำว่าที่สุดจริงๆ
...
สำหรับพันโทนายแพทย์ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา เป็นหมอทหารที่ผ่านการฝึกหลักสูตรรบพิเศษมาแล้วครบทุกหลักสูตรในประเทศไทย เช่น หลักสูตรบุคคลทำการรบแบบจู่โจม หลักสูตรปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศ หลักสูตรทหารเสือราชินี หลักสูตรการรบพิเศษลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจม นาวิกโยธิน และหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือมนุษย์กบ ทำให้มีคนตั้งฉายาหมอภาคย์ให้เป็นหมอที่แกร่งที่สุดในปฐพี

ในเบื้องต้นทางจังหวัดนครราชสีมา โดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา โดย นางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ ภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา มีกำหนดการจัดงานต้อนรับ เชิดชู หมอภาคย์ และเจ้าหน้าที่ทุกนาย ทุกหน่วยงานที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ถ้ำหลวง ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ให้อย่างสมเกียรติของวีรบุรุษ โดยจะมีการจัดเป็นขบวนแห่ไปรอบตัวเมืองนครราชสีมา และประกอบพิธีที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ด้วย
...