คุมเข้ม "ไผ่ ดาวดิน" ขึ้นศาลทหาร มทบ.23 สืบพยานจำเลยปากสุดท้ายคดีชุมนุมทางการเมือง ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ขณะที่ทนายความเบิกตัวนักวิชาการชื่อดังสู้ทุกข้อกล่าวหา...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น ได้มีคำสั่งเบิกตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน มาสอบพยานจำเลยนัดที่ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในคดีร่วมกันมั่วสุมและชุมนุมทางการเมือง คดีเลขที่ 61/2559 ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของกำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่ทั่วทั้งบริเวณเขตอำนาจศาล พร้อมทั้งมีคำสั่งห้ามไม่ให้สื่อมวลชน หรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟังการสืบพยานจำเลย โดยจำกัดพื้นที่ให้อยู่บริเวณด้านหน้าศาลเท่านั้น

ขณะที่องค์คณะตุลาการทหารได้เบิกตัวไผ่ ดาวดิน พร้อมด้วยพยาน ฝ่ายจำเลย 1 ปาก เข้าสืบพยานตลอดทั้งช่วงเช้าของวันนี้ก่อนมีคำสั่งยุติการสืบพยานและให้ส่งตัวผู้ต้องหากลับไปทำการคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นทันที โดยสิ้นสุดคำสั่งศาล เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร และจ่าศาลได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา มาไว้บริเวณชั้น 1 ของอาคารศาลเพื่อให้รับประทานอาหารก่อนส่งมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์มารับตัวกลับไปทำการคุมขังตามเดิม โดยในช่วงของการนำตัวขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหานั้น ได้มีคนในครอบครัวและผู้ที่มาให้กำลังใจต่างพากันเข้ามาสวมกอด โดยเฉพาะนางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของไผ่ ดาวดิน ที่ได้โผเข้าหอมแก้มและให้กำลังใจบุตรชาย ก่อนที่จะถูกคุมตัวขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์
...
นายอานนท์ นำภา ทนายความ กล่าวว่า ผู้ต้องหาตกเป็นจำเลยในคดีจากการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และชุมนุมในวันครบรอบ 1 ปีของการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น โดยถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 ชุมนุมทางการเมือง จำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แต่การสืบพยานจำเลยต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา (9 ก.ค.) ทนายความได้เบิกตัวนักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนและมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ยังคงยืนยันว่าการกระทำของจำเลยนั้นเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

"เราได้มีการแถลงต่อศาลว่า การชุมนุมของจำเลยนั้นเป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญ โดยจำเลยและทีมทนายความยังคงยืนยันในการสู้คดีดังกล่าวตามสิทธิมนุษยชนและเป็นไปตามกฎหมาย และวันนี้สืบพยานจำเลยไปแล้วรวม 3 ปาก คงเหลือพยานปากสุดท้ายคือ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่จะขึ้นให้การว่าด้วยการปกครองและประเพณีในการปกครอง ซึ่งเป็นพยานสำคัญปากที่ 4 ปากสุดท้ายในคดีนี้ ซึ่งศาล มทบ.23 นัดสืบพยานจำเลยอีกครั้ง 18 ก.ย.61 และจะเข้าสู่ขั้นตอนของการแถลงปิดคดีเป็นลำดับต่อไป" นายอานนท์ กล่าว.