ทนายความครอบครัวน้องแอ๋ม เหยื่อฆ่าหั่นศพ เผยจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันหลังคำพิพากษาออกมาว่า ฆ่าโดยเจตนา ไม่ได้ฆ่าโดยไตร่ตรองฯ ยันฟ้องตาม ม.289 แต่ไปลงโทษ ม.288

วันที่ 11 พ.ค. ภายหลังศาลจังหวัดขอนแก่น อ่านคำพิพากษาในคดีร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม โดยให้จำคุกจำเลยที่ 1 น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว จำเลยที่ 2 น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น คนละ 34 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือ เบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 4 นายวศิน นามพรม รวม 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และ จำเลยที่ 5 น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ รวม 33 ปี 9 เดือน

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายครอบครัวของน้องแอ๋ม ทราบว่า ครอบครัวน้องแอ๋มจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของคนที่ฆ่าน้องแอ๋มนั้นไม่ได้พลั้งมือ แต่เป็นความตั้งใจละมีการวางแผนมาอย่างดี มีการหลอกล่อน้องแอ๋มออกมา และถ้าไม่มีการวางแผนหรือคิดร้ายกับน้องแอ๋ม ทำไมถึงต้องหลบซ่อนตัว จึงได้ยื่นฟ้องในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีเพียง น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจร เพียงข้อหาเดียว


ทนายความครอบครัวของน้องแอ๋ม กล่าวอีกว่า เพิ่งทราบว่า น้องแอ๋มถูกกล่าวหาว่า ด่าบุพการีของฝ่ายจำเลยที่ 1 ว่าเป็นโสเภณี ทำให้จำเลยที่ 1 โกรธ จึงมีการต่อสู้กันในรถยนต์ จนน้องแอ๋มเสียชีวิต และมีการหั่นศพในเวลาต่อมา ซึ่งคำพูดที่ยกมากล่าวอ้าง ใครๆ ก็พูดได้ เพราะน้องแอ๋มตายไปแล้ว ไม่มีโอกาสมานั่งแก้ตัว

...

"คำพูดนี้มีผลต่อการตัดสินคดีอาญาที่ลงโทษจำเลยน้อยกว่าโทษจำคุกตลอดชีวิต จึงมีการปรึกษากัน และจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาภายใน 30 วัน เพราะที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องในมาตรา 289 ตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองฯ แต่พิจารณาลงโทษตามมาตรา 288 ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา จึงจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป"

สำหรับประมวลอาญามาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

ต้องระวางโทษประหารชีวิต