จำเลยฆ่าหั่นศพ “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” รอดโทษประหาร ศาลชี้พฤติกรรม “ใช้ผ้าอุดจมูก-ถุงพลาสติกคลุมหัว” ไม่ใช่การฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในการอ่านคำพิพากษา จำเลยใน ‘คดีฆ่าหั่นศพ’ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ 1, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น จำเลยที่ 2, น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนท์ จำเลยที่ 3, นายวศิน นามพรม จำเลยที่ 4 และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ จำเลยที่ 5 ท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชน และผู้ที่ติดตามคดีนี้ รวมไปถึงทนายความ ประชาชนทั่วไป มาร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาล้นห้องพิจารณาคดี จนต้องเสริมเก้าอี้เพิ่ม
องค์คณะผู้พิพากษา ได้อ่านคำพิพากษาที่แยกเป็นข้อกล่าวหาของแต่ละคน เนื่องจากเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ และมีผู้ต้องหาหลายคน จึงต้องแยกการอ่านคำพิพากษาออกเป็นทีละคน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของนางสาวเปรี้ยว นางสาวเอิร์น และนางสาวแจ้ เป็นการทำร้ายร่างกายผู้ตาย และมีการต่อสู้รวมถึงมีปากเสียงกันบนรถ โดยมีบางช่วงที่ผู้ต้องหา มีความคิดที่จะปล่อยผู้ตายลงจากรถ แต่ผู้ตายพูดจาข่มขู่ และผู้ต้องหาเกิดความกลัวทำให้มีการปิดปากปิดจมูกอย่างรุนแรง และมีการใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ตาย ไม่ใช่พฤติการณ์ของการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา จึงลงโทษนางสาวเปรี้ยว จำเลยที่ 1 และนางสาวเอิร์น จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 น.ส.เบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 4 นายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และจำเลยที่ 5 น.ส.แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน
...
นอกจากนี้ ยังคงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง โดยมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1-2-4 และ 5 จ่ายค่าปลงศพ 100,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว รวม 1,070,000 บาท โดยให้แบ่งชำระเป็นเดือนละ 5,000 บาท รวม 17 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2560 ซึ่งเป็นวันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม และในวันนี้ให้วางเงินสด 50,000 บาท ต่อศาลเพื่อเป็นการประกันหลักทรัพย์ในคดีแพ่งด้วย
หลังสิ้นสุดการอ่านคำพิพากษาจำเลยต่างโผเข้ากอดกัน ก่อนที่ตำรวจศาลจะเข้าควบคุมตัวทั้ง 5 คน ไปที่บริเวณที่พักผู้ต้องหาเพื่อรอส่งตัวกลับเข้าเรือนกลางขอนแก่นและทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ขณะที่ด้านนอกศาล ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีเสียงฟ้าร้องดังครืนๆ ตลอดเวลา