คนใจร้ายยิง "เจ้าอาน" สุนัขพันธุ์ทางตายอนาถ เจ้าของพาไปหาหมอแต่ก็ไม่รอด แจ้งความ ตร.โนนสูง ด้านพยานเห็นคนทำร้ายมาทางเต็นท์รถใกล้ๆ ส่วน เจ้าตัวรับทำร้ายจริงแต่ไม่ได้ยิง ยันไม่มีปืน...

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หวังดี เสมอ” โพสต์ภาพลงในเพจ “อุดรมีข่าว มีด่าน มีหมอลำ งานบุญ มีเหตุการณ์ต่าง ๆ บอกด้วย” เป็นภาพของสุนัขไทยพันธุ์ทาง ที่ตายจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ที่บริเวณกลางลำตัวด้านซ้าย ที่มีรอยโกนขนเพื่อเปิดดูบาดแผล โดยมีผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของสุนัข นั่งร้องไห้ดูร่างของสุนัขตัวนี้ และที่ปากของสุนัขคาบแบงก์ 20 ไว้ เหมือนทำพิธีให้กับสุนัข และระบุข้อความว่า “มีคนใจร้าย ยิงหมาตาย สงสารมาก ๆ เลย” โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ที่ส่วนใหญ่แช่งให้ผู้ที่กระทำกับสุนัขตัวนี้ ต้องรับกรรมที่ก่อไว้ 

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของเพจดังกล่าว ทราบว่าเป็นคนงานในแคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ที่รับงานก่อสร้างอยู่ข้างศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งบน ถ.มิตรภาพ อุดรธานี-ขอนแก่น บ.ชัยเจริญ ต.โนนสูง อ.เมือง จึงเดินทางไปและพาไปพบเจ้าของสุนัข คือ นายทองคำ ตอบผา อายุ 58 ปี ชาว ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ช่างของแคมป์ก่อสร้าง พร้อมเล่าเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอว่า ตนพร้อมครอบครัวมาทำงานอยู่แคมป์ก่อสร้างแห่งนี้มา 2 ปี ซึ่งสุนัขตัวนี้ชื่อ เจ้าอาน เป็นสุนัขหลังอานพันธุ์ผสม สีดำ-แดง อายุ 7 ปี ตอนนั้นซื้อมาจากพ่อค้าในตลาดนัดที่ จ.เลย ตั้งแต่เจ้าอานอายุเพียง 1 เดือน โดยตนและครอบครัวรักเจ้าอานมาก เมื่อย้ายไปตั้งแคมป์ก่อสร้างที่จังหวัดใด จะพาเจ้าอานไปด้วย ซึ่งไปมาแล้วทั่วประเทศ เนื่องจากไม่มีคนดูแลที่บ้าน

...

"เจ้าอานเป็นสุนัขแสนรู้ ใจดี ไม่เคยกัดผู้คน และไม่ดุร้าย จึงไม่ได้ขังและผูกเอาไว้ ผมไม่คิดว่าเจ้าอานจะมาตายที่นี่ โดยก่อนที่เจ้าอานจะถูกคนใจร้ายยิงตาย ช่วงเช้าวานนี้ผมเห็นเจ้าอานวิ่งมาด้วยความตกใจ พร้อมร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่หน้าห้องพัก ผมออกมาดูเห็นเลือดไหลออกมาจากลำตัวเจ้าอานจำนวนมาก จึงเปิดดูพบแผลเป็นรูที่ข้างลำตัวด้านซ้ายทะลุด้านขวา ที่เหมือนถูกยิงจากกระสุนปืน จึงรีบนำเจ้าอานไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เพื่อให้ช่วยชีวิตเจ้าอาน หลังจากสัตวแพทย์ทำแผลฉีดยา บอกว่าถูกกระสุนปืนยิง โดยมีครูใจดีช่วยเหลือออกค่ารักษาให้ 1,500 บาท จากนั้นตัวเองก็อุ้มเจ้าอานไปแจ้งความตำรวจที่ สภ.โนนสูง ก่อนนำเจ้าอานกลับมาที่พัก เฝ้าดูอาการ แต่อาการเจ้าอานไม่ดีขึ้น สุดท้ายเจ้าอานก็ตาย ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วันเดียวกัน”

นายทองคำ กล่าวอีกว่า หลังจากเจ้าอานตาย ตนก็นำร่างไปฝังที่ป่าละเมาะ ทางเข้านิคมอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ห่างจากแคมป์คนงานประมาณ 1 กม. โดยทำพิธีให้เจ้าอานเสมือนเป็นคนในครอบครัว โดยให้ปากคาบแบงก์ 20 ไว้ และนำไปฝัง ที่ผ่านมาเรารักเจ้าอานมาก พาไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ๆ เราไปก่อสร้าง ก็ไม่รู้ว่าเจ้าอานไปทำอะไรให้ จึงต้องมาถูกยิงจนตาย จากฝีมือคนใจร้ายเกินมนุษย์ โดยตนขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าอาน สุนัขแสนรู้ของตนเองด้วย เพราะครอบครัวตนรักมันมาก เมื่อคืนภรรยาและลูกๆ ร้องให้กันทั้งคืน เพราะคิดถึงมัน 

ส่วน นายเพลิน บุญภา อายุ 35 ปี ชาว ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี คนงานก่อสร้างในแคมป์เดียวกัน และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เช้าวานนี้เวลาประมาณ 06.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังมาจากสวนมะนาว หลังเต็นท์ขายรถมือสอง ที่มีรั้วติดกันกับแคมป์คนงานก่อสร้าง ห่างกันประมาณ 100 เมตร พร้อมกับได้ยินเสียงเจ้าอานร้องและวิ่งออกมาจากสวนมะนาว เข้ามานอนจมกองเลือดหายใจรวยริน อยู่ที่หน้าห้องพักเจ้าของ และขณะเดียวกันตนเห็นชายสูงอายุ รูปร่างผอม สวมเสื้อสีขาว ยืนอยู่ด้านหลังโรงเก็บรถเต็นท์ขายรถมือสอง ใกล้กับสวนมะนาว และเชื่อว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายเจ้าอานแน่ เนื่องจากที่ผ่านมาชอบยิงปืนขู่ไล่สุนัข ที่กำลังติดสัดอยู่ในบริเวณในรั้วบ้านเป็นประจำ

...

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเข้าพบ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.หน.สภ.โนนสูง ได้เชิญตัวเจ้าของเต็นท์รถมือสอง และเป็นผู้ต้องสงสัย มาสอบสวนในห้องทำงาน และให้การว่า เป็นคนทำร้ายสุนัขตัวดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ใช้ปืนยิง โดยใช้ไม้ไล่ตีสุนัขตัวดังกล่าว ที่มาติดสัดอยู่ภายในบริเวณบ้านของตัวเอง และส่งเสียงเห่าหอนกัดกันอยู่เป็นประจำ จนทำให้สุนัขเพศผู้และเพศเมียของเจ้าของเต็นท์รถที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว บาดเจ็บที่ขาถึง 2 ตัว สร้างความรำคาญไม่ได้หลับนอนมา 4 คืนแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิง เนื่องจากไม่มีอาวุธปืน และตัวเองก็เป็นคนรักสุนัขเช่นกัน

พ.ต.ท.ธานินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น คดีนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และในเบื้องต้นได้รวบรวมสำนวนเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา "ทำให้เสียทรัพย์" เนื่องจากให้การปฏิเสธในการใช้อาวุธปืนยิงสุนัขได้รับบาดเจ็บและตายในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา และจะเชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันในชั้นพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนสุนัขที่ตายจากกระสุนอาวุธปืน ทางตำรวจจะเร่งสืบสวนหาพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุยิงสุนัขมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.