พรานล่ากระทิงในป่าดงใหญ่ ดอดไปยิงกระทิง 2 ตัว ชำแหละเนื้อ 1 ตัว จ้างคนไป ‘แบกเป้’ ออกมา กลายเป็นเบาะแสให้จนท.ตามจับ พาไปชี้จุด ปรากฏว่าอยู่ๆ ผู้ต้องหากระเพาะทะลุ ตายตามกระทิงไปด้วย  




วันที่ 10 เม.ย.61 นางสาวสุนันท์ สุขเจริญ นายอำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ นายราเยส ราย ปลัดอำเภอ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ อ.โนนดินแดง ร่วมกับ นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สส.ภฝ3 แถลงผลจับกุมผู้ล่ากระทิง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ด้านป่าละเลิงร้อยรู อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 3 เม.ย.61 ชาวบ้านแจ้งว่ามีคนนำเนื้อเก้งมาขาย จึงแจ้งชุดปฏิบัติการพิเศษ เมื่อนำเนื้อมาตรวจ พบว่าน่าจะเป็นเนื้อของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ ต่อมาวันที่ 5 เม.ย. มีสายรายงานเพิ่มเติมว่ามีคนว่าจ้างให้เข้าป่าไปลำเลียงเนื้อออกจากป่าอีก ซึ่งเรียกกันว่า แบกเป้เนื้อ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตำรวจ จึงสนธิกำลัง เข้าจับกุมนายนงค์ ไม่ทราบนามสกุล รับสารภาพได้นำเนื้อวัวกระทิง ที่นายอำพร คงมาก หรือทึก เป็นผู้ยิง ช่วยกันขนออกมาคนละ 30 กก. นำมาขาย แต่ยังมีเนื้อเหลืออีกจึงมาหาคนเข้าไปขนเพิ่ม

...

จากนั้น 

เจ้าหน้าที่ได้นำนายนงค์ เข้าชี้จุดชำแหละเนื้อ อยู่ติดป่าชายด้านตะวันตกเฉียงเหนือหน่วยพิทักษ์ป่าละเลิงร้อยรู (บริเวณหอดูสัตว์) พบซากกระทิง 1 ตัวน้ำหนักประมาณ 500 กก. และปืนแก๊ปยาวบรรจุปาก พร้อมเครื่องกระสุนที่ใช้ยิงซุกซ่อนอยู่ใต้ต้นกระบกบริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีดชำแหละเนื้อ 2 เล่ม กระเป๋าผ้าหูหิ้ว ข้างในมีถุงพลาสติกติดคราบเลือด มีดพก ถุงปุ๋ย และเสบียงอาหาร



นายราเยส ปลัดอำเภอ เผยว่า ตั้งแต่วันที่สืบทราบว่ามีการลักลอบยิงวัวกระทิงและนำเนื้อออกมาขาย ได้แบ่งชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นป่า และรอซุ่มจับผู้ต้องหา เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงกลับหนาวเย็นอีกครั้ง

 โดยเจ้าหน้าที่ต้องอยู่ในป่า 4 วัน 3 คืน และประสานกับชุดปฏิบัติการอีกชุดที่อยู่ด้านนอก กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายนงค์ ผู้ร่วมล่ากระทิง ให้เข้ามาชี้จุดในป่า ซึ่งหลังถูกจับ นายนงค์เผยว่า ยิงกระทิงได้ 2 ตัว แต่แล่เนื้อออกไปได้ 1 ตัว เพราะอีกตัวเป็นตัวใหญ่กว่า ต้องไปตามคนมาช่วยนำเนื้อออกไปจากป่า

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นนายนงค์มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากกระเพาะเป็นแผลทะลุจากการที่ดื่มเหล้ามาก อีกทั้งระหว่างที่ตามส่องสัตว์ นายพรานเหล่านี้มักจะไม่ค่อยกินอาหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาออกมาพบแพทย์ แต่นายนงค์ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงไม่สามารถตามหาซากกระทิงที่เหลืออีกได้ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องติดตามตัวนายอำพร คงมาก ผู้ร่วมขบวนการล่ากระทิง เพราะถือว่ามีความผิดเช่นกัน