พ่อเมืองขอนแก่น เผย ผลสอบปมทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นเสร็จแล้ว พร้อมส่งสำนวนให้ ป.ป.ท. ชี้มี 3 ประเด็นหลักจูงใจทำผิด...
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 เม.ย.61 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ที่จังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบในกรณีดังกล่าวตามขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของ ผวจ.ขอนแก่น การดำเนินการตรวจสอบโดยมี นางสุจิตรา พินดวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พมจ.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนได้สรุปรายงานการสอบสวนทุกขั้นตอนให้กับทาง ผวจ.ขอนแก่น ได้รับทราบแล้ว
“มี 3 ประเด็นหลัก คือ มูลเหตุจูงใจของการกระทำความผิดหรือการก่อเหตุ, ระเบียบข้อบังคับของกระทรวง พม. ในการจ่ายเงินดังกล่าวว่าระบุอย่างไร และสุดท้ายคือการสอบสวนในเรื่องของการมีเจ้าหน้าที่ในขอบเขตอำนาจของ ผวจ.ขอนแก่น ที่กำกับควบคุมดูแลอยู่นั้นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือการกระทำที่ทำให้เกิดการยักย้าย หรือทำลายหลักฐานในคดีดังกล่าว โดยรายงานการสอบสวนนั้นได้ส่งถึงมือ ผวจ.ขอนแก่นแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า พมจ.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวน และคณะกรรมการสอบสวนได้ทำงานอย่างรัดกุม รอบคอบ รวดเร็ว และได้มีการสรุปรายงานผลการสอบสวนใน 3 ประเด็นหลักมาให้รับทราบแล้ว โดยไม่ขอเปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชนได้ และผลการสอบสวนดังกล่าวนี้จะมีการประสานงานเพื่อส่งมอบให้กับ ป.ป.ท. ในการเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนและไต่สวนในกรณีความผิดดังกล่าว เพราะขณะนี้ ป.ป.ท.เขต 4 ยังคงลงพื้นที่สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกวัน เพื่อเอาผิดกับผู้ที่กระทำการดังกล่าว โดยเอกสารหลักฐานที่ทางจังหวัดจะทำการส่งนั้นเป็นเอกสารสำคัญของทางราชการที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชนได้
...
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า กระทรวง พม. ในฐานะต้นสังกัดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นนั้น มีแนวทางการสอบสวนที่ชัดเจนและรัดกุม และมีความคืบหน้าในการสอบสวนเอาผิดในประเด็นดังกล่าว จังหวัดมีหน้าที่สนับสนุนและกวาดบ้านตัวเองให้สะอาด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และที่สำคัญคือรัฐบาลได้เน้นหนักในเรื่องของการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน วันนี้แม้การสอบสวนจะไม่สื่อถึงบุคคลในความรับผิดชอบของ ผวจ.ขอนแก่น เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว หรือขัดขวางการทำงานของ ป.ป.ท., ป.ป.ช., สตง. หรือ ปปง. ซึ่งขณะนี้ยังคงลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ หากมีรายงานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแม้จะในระยะนี้หรือหลังจากนี้ ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเช่นกัน อย่างไรก็ตามการทำงานของทุกหน่วยงานในการค้นหาความจริงและเอาตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายนั้น ได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอประสานการทำงานร่วมกันพนักงานสอบสวน และคณะทำงานของทุกฝ่าย ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพราะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำในแนวทางการปฏิบัติ และเมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ ทุกคนจะต้องร่วมมือกันอย่างสุดความสามารถในทุกขั้นตอน จนนำไปสู่การนำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ทั้งในเรื่องของคดีอาญาและโทษทางวินัย.