วันนี้ที่รอคอย!! น้องมิวสิคได้แม่คืนมา ปล่อยตัวจากเรือนจำยะลา เพราะเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ พ่อเมืองกาฬสินธ์ุ จัดให้ควักกระเป๋าจ่ายค่าเดินทางทั้งหมด ภาพสุดซึ้ง 2 แม่ลูกโผกอดกันครั้งแรก พากันกลับบ้านเรา...

จากกรณีนางประไพนี อาทิกร อายุ 57 ปี ชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.เขาวง ในโอกาสเดินทางตรวจราชการที่ อ.เขาวง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2560 หลัง น.ส.วารีรัตน์ สำเร็จงาน อายุ 37 ปี ลูกสาว ถูกคุมขังในเรือนจำ จ.ยะลา ซึ่งน้องมิวสิค ลูกชายของน.ส.วารีรัตน์ ได้เขียนจดหมายระบายความในใจถึงแม่ สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนบ้านที่พบเห็น กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ประสานงานกับเรือนจำ จ.ยะลา เปิดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้น้องมิวสิคได้พบแม่ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2561 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง จัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติไปรับ น.ส.วารีรัตน์ ที่สนามบิน จ.อุดรธานี หลังถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม และเจ้าทุกข์ ไม่ติดใจเอาความ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง

ทันทีที่น้องมิวสิค มาถึงสนามบิน ได้นั่งรอแม่อย่างตื่นเต้นใจจดใจจ่อด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับซื้อขนม มันฝรั่ง และลูกอมมาฝากแม่ และเมื่อเครื่องบิน ไลออนแอร์ 990 หาดใหญ่-อุดรธานี มาถึง ทาง น.ส.วารีรัตน์ ได้เดินออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสาร ทั้งน้องมิวสิค และน.ส.วารีรัตน์ ได้วิ่งโผเข้ากอดซึ่งกันและกัน ด้วยความดีใจและร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ในสนามบิน ก่อนจะจูงมือพากันขึ้นรถตู้กลับบ้านที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีของชาวผู้ไท โดยมีนางประไพนี รออยู่ที่บ้าน

...

น.ส.วารีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจเป็นที่สุดที่ได้เจอหน้าลูกชายและได้เจอแม่ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน และกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, ปลัดกระทรวงยุติธรรม, เรือนจำ จ.ยะลา, เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์, เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานยุติธรรม ทั้ง 2 จังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกงและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะทำหน้าที่แม่และหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด

ด้านนายไกรสร กล่าวว่า กำหนดเดิมทางสำนักงานยุติธรรม จ.ยะลา จะพา น.ส.วารีรัตน์ ขึ้นรถมาส่งที่บ้าน จ.กาฬสินธุ์ แต่เนื่องจากระยะทางไกล ประกอบกับน้องมิวสิค คิดถึงแม่มาก ส่วนนางประไพนี ก็คิดถึงลูก เพราะไม่เจอหน้ากันนาน ตนจึงให้ขึ้นเครื่องบินจาก จ.ยะลา มาลงที่ จ.อุดรธานี โดยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พร้อมกับมอบหมายให้นายอำเภอเขาวง จัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติมารับ น.ส.วารีรัตน์ ที่สนามบิน จ.อุดรธานี

สำหรับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้อยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล “กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนได้กำชับให้ทางอำเภอเขาวง ดูแลครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การจัดหาปัจจัยเพื่อสร้างอาชีพ การประกอบอาชีพ เช่น พันธุ์เป็ด พันธุ์ไก่ และกระบือ เพื่อนำไปเลี้ยงสร้างรายได้ รวมทั้งการดูแลเรื่องทุนการศึกษาของน้องมิวสิค เพราะเท่าที่พูดคุยน้องมิวสิคเป็นเด็กที่เรียนดี และอยากเรียนสูงๆ โตขึ้นในอนาคตอยากเป็นวิศวกร ซึ่งทุกคนต่างดีใจกับ น.ส.วารีรัตน์ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา และดีใจกับน้องมิวสิคที่ได้พบหน้าแม่ โดยทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะคอยช่วยเหลืออย่างเต็มที่.