สาวอุดรฯ น้อยใจผัวแอบมีกิ๊ก ขู่กระโดดแมนชั่นฆ่าตัวตาย สุดท้ายสามีต่อสายโทรศัพท์คุยกับพ่อ รวมทั้งจนท.ตร.ช่วยเกลี่ยกล่อม สุดท้ายนำตัวลงมาได้และปรับความเข้าใจกันและกลับบ้าน   

เมื่อเวลา 20.00น.วันที่ 16มี.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.ถิระโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง มีเหตุหญิงสาวกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ที่ระเบียงชั้น 5 วีระญาแมนชั่น ตั้งอยู่หน้าโรงพัก ถนนนเรศวร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุริยะ เลิศภูมิปัญญา รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี หน่วยกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบหญิงทราบชื่อว่า น.ส.จอย นามสมมติ อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี สวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว ยืนร้องไห้อยู่บนระเบียงชั้น 5 มีนายเดี่ยว ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 30 ปี ชาวอุดรธานี สามียืนเกลี่ยกล่อม ขอร้องให้ลงมา แต่ น.ส.จอย ไม่ยอมลง และยังพูดต่อว่า นายเดี่ยว ที่ไม่ซื่อสัตย์แอบนอกใจไปมีกิ๊ก และมีทีท่าว่าจะกระโดดลงมาหลายครั้ง

...

ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ใช้เครื่องขยายเสียง พูดจาเกลี่ยกล่อมให้ น.ส.จอย เปลี่ยนใจไม่คิดฆ่าตัวตายประชดใคร และพูดให้ตั้งสติตระหนักถึงคุณค่าชีวิตตัวเอง และให้นึกถึงพ่อแม่ ผู้ที่เลี้ยงดูจนเติบโต ซึ่งนายเดี่ยว สามีได้ต่อโทรศัพท์ถึงพ่อ น.ส.จอย ให้พูดเกลี่ยกล่อม ทำให้ น.ส.จอย มีท่าทีอ่อนลง เป็นจังหวะเดียวกันที่ ด.ต.เจริญ ได้ขึ้นไปแขน น.ส.จอย เข้ามาและนายเดี่ยวได้อุ้มลงมาไว้ในที่ปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มายืนมุงดู

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดว่า นายเดี่ยว ทำงานเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้อยู่กินอยู่กันฉันท์สามีภรรยากับ น.ส.จอย แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มาประมาณ 1 ปี ต่อมา น.ส.จอย จับได้ว่า สามีปันใจให้หญิงอื่น แอบไปมีกิ๊ก และวันนี้ได้สะกดรอยตามสามี จนพบว่า ได้แอบพากิ๊กไปกินข้าวที่ร้านอาหาร จึงตามมาต่อว่าสามีที่หน้าโรงพัก และมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะเดินขึ้นไปบนแมนชั้นสูง 5 ชั้น ขู่ว่า จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย นายเดี่ยวจึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเกลี่ยกล่อมให้ลงมา ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงนำตัวลงมาได้ และให้ทั้งคู่ไปรับความเข้าใจกันและพากลับบ้านแล้ว