เกรียงไกร สืบสัมพันธ์
คลิปมัดชัดขอชาวบ้านให้การเท็จ!
ป.ป.ท.จี้เอาผิด 4 ข้อหา เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนมงาบเงินคนจน เสนอย้าย ผอ.ศูนย์ฯ พร้อมเล็งเชือดทั้งวินัยและอาญา แถมพ่วง ผอ.โรงเรียนที่ปรากฏในคลิปเจรจาชาวบ้านให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ ฐานสนับสนุนการทุจริตพร้อมเสนอต้นสังกัดฟันวินัยซ้ำ เผยข้อมูลพบความผิดชัดเจนแล้ว 29 จังหวัด และยังพบการทุจริตเพิ่มอีกหลายจังหวัด รอรวบรวมหลักฐานสรุปผล 12 มี.ค.นี้ “บิ๊กฉัตร” ชี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 แก้ปัญหาโกงเงินคนจน ขณะที่ “ทิชา” จี้นายกฯ ใช้ ม.44 จัดการปัญหาคอร์รัปชัน สะท้อนจุดยืนของรัฐบาล
เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เดินหน้าตรวจสอบขบวนการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ จ.นครพนม พบการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม มีชาวบ้านผู้เสียหาย 564 รายในพื้นที่ 10 อำเภอ นอกจากนี้ยังได้หลักฐานสำคัญที่ชาวบ้านถ่ายคลิปวีดิโอ ผอ.สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ไปพูดคุยเจรจาให้ชาวบ้านยืนยันกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ที่มาตรวจสอบว่าได้รับเงินครบ ถือเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดชัดเจน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 มี.ค. นายเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผอ.ป.ป.ท.เขต 5 เผยถึงแนวทางการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนมว่า ได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคลชัดเจน มีชาวบ้านยืนยันว่าได้รับเงินไม่ครบ ทั้งที่มีการเบิกจ่ายจริง หมายถึงมีการนำเอกสารชาวบ้านไปทำเรื่องเบิกจ่ายเงินออกมาตามระเบียบ แต่ไม่ได้นำมาจ่าย เบื้องต้นบุคคลที่มีอำนาจจะต้องถูกดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายคือ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม ป.ป.ท. จะใช้อำนาจทางกฎหมายเสนอให้ปรับย้ายออกจากพื้นที่ระหว่างการดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา ส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องจะต้องว่ากันไปตามความผิด
...
ผอ.ป.ป.ท.เขต 5 เผยต่อไปว่า ในส่วนของคนนอกคือ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีหลักฐานในคลิป จะใช้อำนาจทางกฎหมายดำเนินการเอาผิดเช่นกัน ถือว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนการทุจริตเพราะมีความพยายามให้ชาวบ้านปิดบังข้อมูลการทุจริต อาจจะมีขบวนการมาขอความช่วยเหลือให้เจรจากับชาวบ้านเพราะเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเชื่อถือ ส่วนเรื่องวินัยหรือความผิดด้านอื่นๆ จะได้เสนอไปยังต้นสังกัดให้ดำเนินการ ทั้งนี้ยืนยันว่า ป.ป.ท.มีหลักฐานชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นอน
พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เผยว่า หลังจาก พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท.พร้อมชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ จ.นครพนม เป็นจังหวัดที่ 29 ที่พบการทุจริต โดยเฉพาะ อ.นาหว้า และ อ.นาทม เบื้องต้นจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตหากมีข้อมูลไปถึง แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหาคือ เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ตามมาตรา 147 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปลอมเอกสาร ตามมาตรา 161 และเป็นเจ้าพนักงานรับรอง หลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามมาตรา 162
“สำหรับการนำข้อมูลการทุจริตเข้าบอร์ด ป.ป.ท. เพื่อขออนุมัติไต่สวนนั้น หากจังหวัดไหนมีพฤติกรรมการทุจริตไม่ซับซ้อน ตัวละครที่เกี่ยวข้องไม่เยอะ จังหวัดไหนรวบรวมข้อมูลครบถ้วนเสร็จก่อนก็นำเข้าบอร์ด ป.ป.ท.ได้เลย จะต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อมเพื่อเสนอตามขั้นตอน นอกจากนี้ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่พบมีการทุจริตเพิ่มอีกหลายจังหวัด แต่ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องรอให้รวบรวมหลักฐานมากกว่านี้ก่อน คาดว่าวันที่ 12 มี.ค.นี้จะสามารถสรุปผลอย่างเป็นทางการได้” พ.ต.ท.วันนพกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บอร์ด ป.ป.ท. อนุมัติไต่สวนไปรอบแรก 2 จังหวัด คือ ขอนแก่น และเชียงใหม่ และรอบที่สองบอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติไต่สวนเพิ่ม 5 จังหวัด คือ บึงกาฬ หนองคาย น่าน สุราษฎร์ธานี และตราด ส่วนอีก 22 จังหวัดที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐานและพบความผิดปกติคือ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กระบี่ ตรัง สงขลา นราธิวาส ยะลา พัทลุง อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธร ลำพูน ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก สระแก้ว อ่างทอง และ นครพนม เป็นการตรวจสอบงบประมาณปี 2560 และอาจมีการตรวจสอบงบประมาณย้อนหลังไปถึงปี 2558 หรือย้อนหลังไปอีกหากพบความเชื่อมโยง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุว่าถ้ามีความจำเป็นจะเสนอนายกฯใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาทุจริตเงินอุดหนุนผู้ยากไร้ว่า ตนคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพราะมีระเบียบตามปกติอยู่แล้ว พล.อ.อนันตพรก็สั่งย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไปแล้วหลายคน พล.อ.อนันตพรขอเวลาดำเนินการ 30 วัน คาดว่าสิ้นเดือน มี.ค.นี้จะจบหมด อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตนกำชับเสมอว่าต้องจริงจังในการแก้ปัญหา ถ้าทุจริตได้แม้กับคนยากไร้ก็แย่มาก
ด้านนางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงการทุจริตเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่พบในหลายจังหวัดว่า ยุครัฐบาลทหารหรือรัฐบาล คสช. ข้อเสียคือไม่มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ หรือที่เรียกว่าวิธีทางการเมืองในการจัดการปัญหา เหลือเพียงอำนาจ คสช. ดังนั้นสถานการณ์การคอร์รัปชันเงินคนจนมีความชัดเจนว่าข้าราชการใน พม. น่าจะทำการทุจริตเป็นระบบและอาจจะตรวจสอบได้ยาก ดังนั้นอยากเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้า คสช. ควรตัดสินใจใช้อำนาจตามมาตรา 44 จัดการกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้แล้ว อย่างน้อยเพื่อสะท้อนจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างว่าเข้ามายึดอำนาจเพราะประเทศมีการคอร์รัปชัน แม้ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพราะเป็นการใช้อำนาจที่เกินจำเป็น แต่ตอนนี้คงไม่มีเครื่องมือหรือกลไกอื่นที่จะมาแก้ปัญหาและจัดการข้าราชการหรือคนโกงอื่นๆได้อีก
...
นางทิชากล่าวด้วยว่า กรณี ป.ป.ท.พบหลักฐาน ผอ.สถานศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม พูดคุยกับชาวบ้านให้ยืนยันกับ ป.ป.ท.ว่าได้เงินช่วยเหลือจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งครบนั้น ยิ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาฉ้อฉลคอร์รัปชันชัดเจน เห็นได้ว่าข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำเพราะเผลอหรือเอกสารคลาดเคลื่อน ทั้งยังพยายามปิดบังความผิดของตัวเอง ขณะที่ชาวบ้านอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือหรือถูกหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ซึ่งไม่ได้มากมายนัก จึงไม่ควรทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าจะต้องโดนลงโทษและควรกันไว้เป็นพยาน ทั้งนี้การเข้ามาช่วยเหลือของครูอาจารย์ในบางจังหวัดสะท้อนระบบอุปถัมภ์ที่ค้ำชูกัน ทั้งหมดเป็นรากเหง้าปัญหาคอร์รัปชันในสังคมไทย
ส่วนกรณีที่กลุ่มตรวจสอบภายใน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ตรวจสอบบัญชีงบประมาณ ประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ. พบมีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2551-2561 จำนวนกว่า 88 ล้านบาท มีข้าราชการฝ่ายปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง 5 รายถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่หน่วยงานอื่นและแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงไปแล้วนั้น พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 2 เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนหากได้รับเรื่อง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว คาดว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน ทั้งนี้ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าข่ายกระทำความผิดในระดับขอบเขตอำนาจความรับผิดชอบของ ป.ป.ท. ก็จะเสนอคณะกรรมการหรือบอร์ด ป.ป.ท.พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเหมือนกับคดีอื่นๆ
ด้านนายอาทร จันทวิมล อดีตรองปลัด ศธ. ผู้ริเริ่มก่อตั้งกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กล่าวว่า เรื่องนี้มีคนสอบถามมาถึงตนหลายครั้งแล้วว่ายังมีกองทุนนี้อยู่หรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับเงินเลย ตนพยายามสอบถามข้าราชการใน ศธ.อยู่ แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน พอทราบข่าวรู้สึกตกใจมากว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เพราะตอนที่จัดตั้งกองทุนมั่นใจว่าในระเบียบได้กำหนดแนวปฏิบัติการจ่ายเงินไว้อย่างรัดกุม สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงถึงความหละหลวมอย่างมาก เพราะปล่อยให้มีการยักยอกโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นมานานถึง 10 ปี
...