มหาวิทยาลัยชื่อดังภาคอีสาน อ้าแขนรับ "น้องแบม" ฮีโร่ด้านการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เป็นบุคลากรทางการศึกษาทันที หลังสำเร็จการศึกษา พร้อมมอบทุน ป.โท และรับเป็นอาจารย์ผู้สอนเมื่อสำเร็จการศึกษา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 มี.ค.61 ที่หอประชุมประภากรคอนเวนชั่นฮอลล์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานในการประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการ "วันครบรอบ 30 ปี NEU" เนื่องในวันครบรอบการก่อตั้งมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา รวมไปถึงหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใน เขต จ.ขอนแก่น และนักศึกษาจากทุกชั้นปี เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 500 คน


ดร.เอกอนันต์ กล่าวว่า โอกาสครบรอบ 30 ปี ของการดำเนินงานของทางมหาวิทยาลัยฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่อง เชิดชูเกียรติและให้กำลังใจ กับ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิต ชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. ลูกหลานชาวขอนแก่น ที่ได้ทำความดีเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน และเป็นการแสดงออกถึงการเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ใจกล้าออกมาทำความดีเพื่อปกป้องประเทศและปกป้องผู้ยากไร้ และผู้ที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล ในการออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. จนเกิดการตรวจสอบของ คสช.และ ป.ป.ท. จนพบมูลความผิดทั้งที่ จ.ขอนแก่น และในหลายจังหวัดทั่วทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้


"ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดของน้องแบม ที่มีปณิธานที่มุ่งมั่นในการให้การสนับสนุนคนดี คนเก่งและคนกล้า อย่างน้องแบม ซึ่งในเบื้องต้นคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ ยินดีให้การสนับสนุนทุนการศึกษาในระดับปริญญาโท ตามที่น้องแบมจะเลือกหลักสูตร ที่เราเปิดทำการเรียนการสอน หรือในหลักสูตรที่ต่อเนื่องจากสาขาพัฒนาชุมชน คือหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดี ที่วันนี้เราได้เห็นคนคนหนึ่งที่กล้าแสดงออกแบบนี้ แต่หลายคนไม่กล้า เพราะอาจกลัวเรื่องอื่นๆ ตามมา และวันนี้ ม.ภาคฯ ขอยกย่องให้น้องแบม เป็นผู้กล้า เป็นฮีโร่ที่ทุกคนได้เห็นและเชื่อว่าผู้ใหญ่ในประเทศที่ทราบเรื่องจะสนับสนุนการกระทำของคนดีคนนี้ต่อไป" ดร.เอกอนันต์กล่าว

...


ดร.เอกอนันต์ กล่าวต่อว่า สถาบันการศึกษาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เพราะการเป็นคนดีนั้นต้องมาก่อน ดังนั้นการคิดดี ทำดี พูดดี และกล้าทำในสิ่งที่ดี น้องแบมได้แสดงให้เห็นแล้ว และน้องแบมจะเป็นแบบอย่างให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ และในอีกหลายสถาบันนั้นที่จะมีคนกล้าออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้องเช่นนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้น้องแบม ยังคงศึกษาต่อในระดับชั้นปีที่ 4 และเหลืออีกเพียงการทำวิจัย ก็จะสำเร็จการศึกษา ซึ่งหากน้องแบมติดปัญหาด้านการเรียน มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็พร้อมที่จะรับการโอนย้ายทันที และหากสำเร็จการศึกษาแล้ว และต้องการความมั่นคงในการทำงาน มหาวิทยาลัยฯ พร้อมที่จะรับเข้าทำงานในกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา โดยจะจัดสรรตำแหน่งและหน้าที่ในงานด้านนิสิต และงานชุมชนให้กับน้องแบม ซึ่งในระหว่างทำงานที่มหาวิทยาลัยฯก็สามารถศึกษาในระดับปริญญาโท ควบคู่ไปด้วยและหากสำเร็จในระดับปริญญาโทน้องแบมต้องการเป็นครูผู้สอน มหาวิทยาลัยฯก็จะให้การสนับสนุนงานด้านวิชาการ จนน้องแบมได้เป็นครูผู้สอนที่ตรงกับเกณฑ์และมาตรฐานของ สกอ.ที่กำหนดไว้อีกด้วย.