โกงเงินคนจนระบาดไปทั่ว โผล่อีกที่มุกดาหาร ผู้ป่วยโรคเอดส์โวยแหลก ถูกเจ้าหน้าที่อมเงินช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท และเงินประกอบอาชีพอีกรายละ 5,000 บาท ยันบางคนไม่ได้รับ บางคนได้รับไม่เต็มจำนวน พร้อมให้ปากคำ ป.ป.ท. ขณะที่ ผอ.ศูนย์ฯอ้างการจ่ายเงินมีเอกสารหลักฐาน สามารถตรวจสอบได้ “กรทิพย์” ลงพื้นที่ขอนแก่น ประชุม 3 ฝ่าย วางแผนคุ้มครองพยาน เตือนใครทำลายหลักฐานโดนเชือดแน่
ยังกลายเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชนกรณีโกงเงินคนจนที่แพร่ระบาดอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศ จนนำไปสู่การสั่งย้ายนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเป็นธรรม ล่าสุด ป.ป.ท.ยังคงเดินหน้าสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดขุดรากถอนโคนขบวนการโกงเงินคนจน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่ห้องประชุม แก่นภูมิ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ประชุมร่วมกับนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.กาจน์บดินทร์ ยิ่งดอน รอง ผอ.รมน.ขอนแก่น พ.อ.สมบูรณ์ ณ หนองคาย เสนาธิการ มทบ.23 พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายการข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแกน (กกล.รส.จ.ขอนแก่น) นางสุจิตร พิณด้วง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขอนแก่น (พมจ.) เพื่อสรุปแนวทางการคุ้มครองพยาน ในคดีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการไต่สวนคดีของ ป.ป.ท. เพื่อให้การคุ้มครอง น.ส.ปณิดา ยศปัญญา อายุ 23 ปี นิสิตสาว คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น เป็นไปอย่างรัดกุมและปลอดภัย
...
พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า การสอบสวนของ ป.ป.ท.นั้นเป็นไปอย่างรัดกุมรอบคอบ นอกจากที่ขอนแก่นแล้ว ยังขยายไปที่เชียงใหม่ บึงกาฬและหนองคาย ทุกศูนย์มีความผิดคล้ายกัน และจะขยายผลเพิ่มเติมอีก 8 จังหวัด เฉพาะศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 คน แยกเป็นข้าราชการ 2 คน ลูกจ้าง 3 คน คนนอก 1 คน ส่วนข้อกังวลในเรื่องของการทำลายหลักฐาน ป.ป.ท.ไม่หวั่น เพราะเอกสารของทางราชการนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ศูนย์เพียงอย่างเดียว มีเก็บไว้ที่อื่นด้วย ถ้าทำลาย ป.ป.ท.จะเอาผิดทางอาญาด้วย ยืนยันว่า ป.ป.ท.จะเดินหน้าสอบสวนเอาผิดขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ได้ทั้งหมด หากเกินกำลังจะขอสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ขณะนี้ทีมงานของ ป.ป.ท.ยังคงเอาอยู่
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่นกล่าวว่า เรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ขอนแก่น ในระดับจังหวัดมีการตรวจสอบทั้งเจ้าหน้าที่ รพ.สต.และ อสม. ไม่พบสิ่งผิดปกติ รวมทั้งได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนโดยมี พมจ.ขอนแก่น เป็นประธาน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะสรุปผลภายใน 30 วัน ส่วนการคุ้มครองพยานนั้น ได้ให้ความมั่นใจกับ ป.ป.ท. และพยานทั้ง 2 คน ที่กล้าออกมาเปิดเผยความจริง ขณะนี้กำลังทหารจาก กอ.รมน. และ มทบ.23 ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ด มทบ.27 (ร้อยเอ็ด) ฝ่ายปกครอง จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ร้องเรียนทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่และตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
นางสุจิตร พิณดวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขอนแก่น (พมจ.) ประธานกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กล่าวว่าต้องตรวจสอบในทุกมิติ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบประมาณย้อนหลังในปี 2559-2560 และปี 2561 จุดนี้ไม่ทำซ้ำกับ ป.ป.ท. ขณะนี้ได้ตรวจสอบความผิดปกติ เรื่องการเบิกจ่ายว่าถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนที่กระทรวงกำหนดไว้หรือไม่ มูลเหตุจูงใจมาจากสาเหตุใด เพราะคนอายุ 50 กว่าปี ผ่านการเป็น ผอ.ศูนย์ฯ จ.อุบลราชธานีมาแล้ว ก่อนจะมาเป็น ผอ.ศูนย์ฯ จ.ขอนแก่น ความแตกต่าง 2 จังหวัดนี้ไม่น่าจะมีอะไรที่ต่างกันมาก การตรวจสอบผ่านมา 9 วัน พบบางสิ่งบางอย่างที่สามารถบอกได้ว่า ทั้งหมดไม่ใช่การผิดพลาดหรือพลั้งเผลอ ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป็นนักชำนาญการพิเศษ ก็ดูว่ามีการใช้จ่ายเงินในเรื่องใดบ้าง หนี้สินหรือคนในครอบครัวนำเงินไปใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง ต้องตรวจสอบให้ละเอียด
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท. เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 4 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พบกับนางดวงจันทน์ ชูรัตน์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน และเพื่อนบ้านใกล้เคียงรวม 5 ครอบครัว ที่มีรายชื่อได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ฯ โดยมีนายปรีดา ปัญญาใส ผู้ใหญ่บ้านตูมเหนือ นำสำเนาบัญชีรายชื่อผู้รับเงินมาให้ดู นางดวงจันทน์ระบุว่า ตามที่มีชื่อนายมะลิ เพชรแพง บิดาเป็นผู้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ฯ ติดต่อกันมาจนถึงปี 2560 ตนไม่เคยรับรู้มาก่อน บิดาเสียชีวิตไปเมื่อ 9 ธ.ค.57 จะมารับเงินปี 60 ได้อย่างไร และที่ระบุว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ความจริงเป็นบ้าน 2 ชั้น มีรถยนต์และเครื่องกลเกษตร ไม่ใช่ครอบครัวยากจน ขณะที่เพื่อนบ้านอีก 4 คนก็ยืนยันว่าไม่เคยรับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์เช่นกัน แต่เมื่อ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ทุกคนไปร่วมประชุมกลุ่ม มีภรรยานักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งจัดฉากให้ถ่ายภาพรับเงิน 2,000 บาท แล้วเอาเงินคืนไป ไม่ได้รับเงินจริง ขณะที่นายปรีดา ผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันว่าไม่เคยรายงานขอรับการช่วยเหลือสงเคราะห์ให้กับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย และไร้ที่พึ่งแม้แต่ครอบครัวเดียว ไม่รู้รายชื่อนี้เป็นข้อมูลจากส่วนไหน

...
พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท.ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีบางคนเสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังมีชื่อได้รับการสงเคราะห์ บางคนเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีรายชื่อได้รับเงินสงเคราะห์ เมื่อพบแบบนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ตื่นตัว เจ้าหน้าที่ไปที่ไหนก็ได้รับความร่วมมือให้ความจริง ทั้งตัวผู้ปกครองหมู่บ้าน ที่นำชาวบ้านมาให้ข้อมูล ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการจัดฉากการรับเงินทาง ป.ป.ท.จะตรวจสอบลงไปลึกแค่ไหน พ.ท.กรทิพย์ตอบว่า ความจริงก็คือความจริง การเดินหน้าเอาผิดต้องดำเนินการต่อ ทำตามพยานหลักฐาน หมู่บ้านแห่งนี้มีผู้มีชื่อรับเงิน 30 คน เรียกมาสอบ 5 คน พบว่าไม่มีใครรู้เรื่องเงินตัวนี้เลย บางคนตายไปนานแล้วแต่ยังมีชื่อรับเงิน
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.น้อย (นามสมมติ) ผู้ป่วยโรคเอดส์ใน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้ามาพบบอกว่านายกรัฐมนตรีสั่งให้มาสอบถามข้อมูลเรื่องการทุจริตเงินคนจน ได้ให้ความจริงไปว่าใน อ.หนองสูง มีผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ต้องได้รับเงินคนละ 2,000 บาท เงินประกอบอาชีพอีกคนละ 5,000 บาท แต่ปรากฏว่าข้อเท็จจริงบางคนไม่ได้รับ บางคนได้รับไม่เต็มจำนวน ไม่ทราบว่าเงินส่วนนี้ตกอยู่ในมือใคร รู้สึกดีใจที่ ป.ป.ท. เข้ามาตรวจสอบ ตนพร้อมจะให้ความจริงทุกประการ ด้าน น.ส.วิมล กลางประพันธ์ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งมุกดาหาร ชี้แจงว่า ตนเพิ่งมาทำงานในตำแหน่งนี้ การจ่ายเงินทุกครั้งจะมีเอกสารหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ ยังไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนไปยักยอกเงินผู้ป่วยโรคเอดส์
นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า พส.ได้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในแต่ละศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอย่างต่อเนื่อง บางจังหวัดไม่พบการทุจริต ส่วนที่ทราบจากสื่อมวลชนล่าสุดว่า ป.ป.ท.พบการทุจริตแล้ว 14 จังหวัด ทาง พส.จะลงตรวจซ้ำอีกรอบ เบื้องต้นที่ พส.ลงไปตรวจและพบความไม่ปกติเพิ่มมี สุราษฎร์ธานี บึงกาฬ พัทลุง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด ขณะนี้มีเพียง 2 จังหวัด คือ ขอนแก่น และเชียงใหม่ ที่พบมีมูลและย้าย ผอ.ศูนย์ฯออกจากพื้นที่แล้ว ส่วนกรณี ป.ป.ท.ระบุว่าบางพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลเอกสารเหมือนยื้อเวลานั้น ตนก็รับทราบจากข่าว แต่ยืนยันว่ามีการส่งหนังสือแจ้งทุกศูนย์ฯ ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกกับ ป.ป.ท.ตามคำสั่งการ รมว.พม.แล้ว หากศูนย์ฯใดไม่ให้ความร่วมมือ ป.ป.ท.สามารถแจ้งมาที่ พส.เพื่อเป็นตัวกลางประสานไปอีกครั้ง
...
น.ส.อัจฉรา สรวารี นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิอิสรชน เปิดเผยถึงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า เป็นเรื่องจิตสำนึกของคนทำงานของข้าราชการ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องของระบบหรือกลไกการทำงาน เพราะบางศูนย์ฯที่ไม่โกงก็มี จึงอยู่ที่จิตสำนึกของคนล้วนๆ แม้ระบบจะเอื้อหรือห่วยอย่างไร หากคนไม่คิดคอร์รัปชันก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น ไม่อยากให้เหมารวมเพราะคนที่ทำงานดี ขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบทำงานได้ยากขึ้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯส่วนใหญ่เป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีสวัสดิการใดๆรองรับ เคสทุจริตที่ขอนแก่น ไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่แน่นอนก่อนเบิกจ่ายเงิน รวมถึงการเปลี่ยนผู้บริหารประจำศูนย์ฯ ด้วยการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ทำให้ไม่เกิดการต่อยอดในการทำงาน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ท. เข้าพบเมื่อวันที่ 27 ก.พ. เพื่อรายงานความคืบหน้าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ว่า จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบในบางจังหวัด พบมีมูลการกระทำความผิดเกือบทุกแห่ง หลับหูหลับตาไปที่ไหนก็พบ ต่อไปคงลืมตากว้างๆแล้วไปทุกจังหวัด ส่วนที่ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบผู้กระทำผิดหลังจากนี้เป็นหน้าที่ ป.ป.ท. ต้องตรวจสอบต่อไป และต้องสุ่มตรวจสอบในอีกหลายจังหวัดเพิ่มเติมด้วย