ผอ.โรงเรียนคบกับเด็กหญิง ม.2 ตำรวจเรียกประชุมพนักงานสอบสวนเร่งสอบข้อเท็จจริง ดำเนินคดีอาญา ขณะที่ตัว ผอ. และเด็กเก็บตัวเงียบ ติดต่อไม่ได้ เผยประวัติ ผอ.ฉาว เคยถูกลงโทษทางวินัย ลวนลามเด็ก ป.6 มาแล้ว...

เช้าวันที่ 25 ม.ค. 61 พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายสามภพ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 อายุเพียง 14 ปี โดยจะเร่งดำเนินการหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัดภายในกรอบระยะเวลา 3 วัน ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ภ.3

ทั้งนี้ หากมีพยานหลักฐานปรากฏชัดว่า ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าวกระทำผิดจริง จะได้ประสานผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี แต่ถ้าหากผู้ปกครองไม่ยอมแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเอง ตามกฎหมายคุ้มครองเด็ก และเยาวชน ฐานความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ เพื่ออนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี 

ขณะที่ล่าสุด นายสามภพ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ยังไม่เดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ที่ตกเป็นข่าวด้วยกัน ยังไม่ยอมเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเช่นเดียวกัน 

ทางด้าน นายศุภพงษา จันทรังษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้าคงจะสรุปผลการสอบสวนเบื้องต้นได้ว่า ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ากระทำผิด คณะกรรมการจะส่งเรื่องไปให้ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ ผอ.โรงเรียนรายนี้ต่อไป ซึ่งมีโทษหนักถึงขั้นไล่ออกจากราชการ และไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ

...

"ก่อนหน้านี้ ผอ.โรงเรียนรายนี้ เคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเด็กนักเรียนหญิงที่โรงเรียนเก่ามาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นถูกกล่าวหาว่าลวนลามเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6 และทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีบทลงโทษทางวินัย ด้วยการตัดเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ก่อนที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาจะมีคำสั่งย้าย ผอ.ออกจากโรงเรียนเก่า ไปอยู่โรงเรียนแห่งใหม่ และมาเกิดกรณีกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 ดังกล่าว".