แม่ลำยองปลาร้าเจ้าเก่าสกลนคร ขายมา 40 ปี เผยปีใหม่ยอดขายกระฉูด คนอีสานซื้อติดไม้ติดมือกลับ กทม. พบในภาคอื่นๆ คนนิยมกินมากขึ้น เชิญชวนให้ชิม มีให้เลือกหลายเวอร์ชั่น สุก ดิบ นัวมาก นัวน้อย...
วันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร ได้ไปที่บ้านเลขที่ 316 หมู่ 7 บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร สถานที่ผลิตปลาร้า "แม่ลำยอง" ของนางสุนันทา เหง้าน้อย อายุ 65 ปี เจ้าของกิจการผลิตปลาร้ารายใหญ่ ในพื้นที่สกลนคร ซึ่งได้ญาติพี่น้องมาช่วยเหลือกันผลิตปลาร้าจนประสบผลสำเร็จ
นางสุนันทา กล่าวว่า ในอดีตทำปลาร้าเพียงแค่รับประทานในครอบครัว และแบ่งให้ญาติมิตรเป็นของฝาก แต่ด้วยรสชาติที่จะแซ่บนัว และกลิ่นที่หอมแบบอีสาน จึงเป็นที่ติดปากและติดใจ มีผู้คนถามหาเข้ามาขอซื้อปลาร้า และน้ำปลาร้าเป็นจำนวนมาก ตนจึงตัดสินใจทำปลาร้าจำหน่าย โดยเริ่มแรกจากผลิตขายในหมู่บ้าน แล้วขยายออกไปสู่อำเภอ จังหวัด จนทุกวันนี้ มีพ่อค้าจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ เข้ามารับซื้อไปขายต่อ ยอดขายในแต่ละวันประมาณ 20 ปี๊บ หรือ 400 กก./วัน ในราคา กก. 20 บาท คิดเป็น 8,000 บาท/วัน หรือ 240,000 บาท/ เดือน เฉลี่ยปีละ เกือบ 3 ล้านบาท เป็นธุรกิจที่มีรายได้ไม่น้อย

...
เจ้าของปลาร้า แม่ลำยอง กล่าวอีกว่า ยอดขายดังกล่าวดูเหมือนสูง แต่เมื่อหักลบต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบ อาทิเช่น ปลา เกลือ น้ำตาล น้ำอ้อย เชื้อเพลิง ภาชนะฯ ตลอดจนค่าจ้างแรงงานซึ่งก็เป็นญาติพี่น้อง และคนในชุมชนรวมกลุ่มกันทำเงินหมุนเวียนในชุมชน หักต้นทุนแล้วก็พอมีกำไรบ้าง โดยปลาจะรับซื้อจากพ่อค้าปลาลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน ลำน้ำพุง แต่ปัจจุบันพบว่าปลาเริ่มขาดตลาด และปรับราคาขึ้น นอกจากนี้ อากาศในช่วงฤดูหนาวก็จะกระทบถึงเวลาในการหมักปลาร้า ซึ่งในช่วงปกติ 5 เดือน สามารถนำออกมาขายได้ แต่ด้วยอากาศที่เย็นในช่วงฤดูหนาว การหมักต้องยืดเวลาออกไปอีก 3-4 เดือน น้ำปลาร้าถึงจะได้ที่
อย่างไรก็ดี ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พ.ศ. 2561 ปลาร้ามียอดขายเพิ่มขึ้น โดยประชาชนที่ทำงานที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงเมืองอุตสาหกรรมต่างๆ เดินทางกลับบ้านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ขากลับต่างซื้อปลาร้าแม่ลำยองกลับไปคนละปี๊บสองปี๊บ
"คือถ้าเป็นคนอีสานโดยแท้จะต้องมีน้ำปลาร้าติดครัว นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนในภูมิภาคอื่น หรือคนภาคกลางก็เริ่มนิยมรับประทานปลาร้ากันมากขึ้น สำหรับปลาร้าแม่ลำยอง มีให้ลูกค้าเลือกหลายเวอร์ชั่น ทั้งแบบสุกและดิบ แบบหอมมาก หอมน้อย นัวมาก ถึงมากที่สุด" นางสุนันทา กล่าว.