รพ.เกาหลียังไม่สรุป ‘เปิ้ล’ สาวบัวใหญ่ วัย 29 ปี ที่ไปถูกฆ่าอย่างทารุณโดยชายเกาหลีใต้ ถูกย่ำยีขืนใจด้วยหรือไม่ แต่พ่อค่อนข้างเชื่อลูกถูกข่มขืนก่อนฆ่า จากร่องรอยที่พบ อาจถูกลากร่างด้วย แต่ต้องรออีก 1 สัปดาห์ กว่าผลจะออกมา...
เวลา 13.00 น. วันที่ 12 พ.ย. กรณี นางชุติมา อุทัยคำ หรือเปิ้ล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 บ้านสระครก ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ม่ายสาวลูกหนึ่ง อุตส่าห์ไปงานทำที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเวลากว่า 11 ปี เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับหนุ่มเกาหลีใต้คนงานขับรถในบริษัทเดียวกัน ฆ่าตายอย่างน่าอนาถ นำศพไปทิ้งบนภูเขาห่างไปกว่า 200 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ และพบศพกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่สามารถนำศพมาจัดการตามประเพณีที่ประเทศไทยบ้านเกิดเมืองนอนได้ แม้ว่า นายสัมฤทธิ์ เพลินกิจเจริญ พ่อ จะเดินทางไปรับศพลูกสาวที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีสถานเอกอัครราชทูตไทย เป็นผู้ประสานงาน แต่ต้องรอผลการชันสูตรทางการแพทย์ในท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสัมฤทธิ์ ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ต้องครบ 3 สัปดาห์ จึงจะทราบผลจากทางโรงพยาบาลว่า ถูกข่มขืนก่อนฆ่าตายหรือไม่ นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตและข้องใจของคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ ว่าข่าวการตายของสาวไทยค่อนข้างเงียบในสื่อต่างๆ ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้นายสัมฤทธิ์ไม่ค่อยสบายใจนัก
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 13 พ.ย. ทางสถานทูตไทย กงสุลประจำกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้นัดนายสัมฤทธิ์ให้ไปรับใบมรณบัตรของ นางชุติมา หรือเปิ้ล อุทัยคำ ซึ่งหลังจากได้ใบมรณบัตรแล้ว จะนำไปรับศพกลับประเทศไทย
ขณะเดียวกัน นายสัมฤทธิ์ ได้เขียนจดหมายขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวด้วย ว่า จากบาดแผล เสื้อผ้า กางเกง เสื้อขาดที่บ่า กางเกงขาดที่หัวเข่าทั้งสองข้าง น่าจะถูกข่มขืนแล้วฆ่า นำศพมาทิ้งหรือไม่ ถ้าหากเกิดการต่อสู้จริง ทำไมกางเกงจำเป็นต้องขาดเฉพาะที่หัวเข่า และเสื้อขาดตรงที่บริเวณหัวไหล่ รองเท้าก็หายไปทั้งคู่ ไม่มีในบริเวณที่พบศพ ดูสภาพเสื้อ กางเกงที่ขาด น่าจะเนื่องมาจากการลากจากรถยนต์หรือไม่ ถึงการตรวจชันสูตรไม่แล้วเสร็จก็ตาม ทั้งนี้ การเดินทางไปรับศพลูกสาของนายสัมฤทธิ์ ได้มีคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ มีน้ำใจช่วยเหลือ ได้แก่ คุณแพน เมืองแสง กับร้านอาหารไทยเป็นต่อ ให้ที่พักและอาหารการกิน ช่วยดำเนินเรื่องอยู่ในขณะนี้ นายสัมฤทธิ์ยังขอบคุณ นสพ.ไทยรัฐ และเว็บไซต์ไทยรัฐ ที่ช่วยเกาะติดข่าวเรื่องนี้มาโดยตลอด ทำให้อบอุ่นใจที่มีแรงในการต่อสู้ครับ นายสัมฤทธิ์ กล่าว
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุฆาตกรรมครั้งนี้ ฆาตกรอาจจะข่มขืนแล้วฆ่าน้องเปิ้ลตายในจุดใดจุดหนึ่ง แล้วนำศพไปทิ้งทางภาคใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ที่เมืองยองยัง เพื่อซ่อนเร้นปิดบังอำพรางคดีให้ตำรวจเกาหลีใต้สับสน ขณะโรงงานซึ่งเป็นที่งานของผู้ตายอยู่ที่เมืองอันซอง มีระยะทางห่างจากกรุงโซลประมาณ 100 กิโลเมตร และทางโรงพยาบาลเมืองยองยังได้นำศพ นางชุติมา หรือเปิ้ล ย้ายมาที่ รพ.กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ขณะที่นายสัมฤทธิ์จะต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อทราบผลการตรวจจากทางแพทย์ รพ.ยองยัง ว่าถูกข่มขืนก่อนฆ่าหรือไม่.