ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ออกประกาศ ฉ.6 หลังเขื่อนลำปาวตัดสินใจปล่อยน้ำ 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน กระทบกว้าง 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ กำชับ นอภ.อพยพผู้คนไปอยู่ในที่สูง เตรียมช่วย ปชช.ที่เดือดร้อน...
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2560 นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดกาฬสินธุ์ว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ทางกรมชลประทานได้แจ้งและมีมติให้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำปาวต่อไปอีกในปริมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อลดระดับน้ำในเขื่อนลำปาวให้เหมาะสมกับน้ำที่ไหลเข้าอ่างและมวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่นไหลลงมาตามลำน้ำชี ทำให้น้ำชีหนุน จึงทำให้น้ำจากเขื่อนลำปาวไหลลงน้ำชีไม่ได้เหมือนที่คาดการณ์เอาไว้
ผลจากการระบายน้ำครั้งนี้ จึงส่งผลกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ จึงได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ได้เตรียมการสำรวจและอพยพผู้คนไปอยู่ในที่สูงโดยด่วน แจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการเข้าช่วยเหลือโดยด่วน พร้อมเตรียมการเยียวยาสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นทางผู้ว่าฯ พร้อมนายกเหล่ากาชาด ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนชาวบ้านในอำเภอเมืองและอำเภอยางตลาด ที่ได้รับผลกระทบเป็นอำเภอแรกๆ เพื่อนำชาวบ้านย้ายสิ่งของมาอยู่ตามวัดและศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมแจกถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่เดือดร้อน เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ได้ออกหนังสือแจ้งสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ฉบับที่ 6 ออกมาชี้แจงให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์รับทราบข่าวสาร ดังนี้
...
เรื่อง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ฉบับที่ 6
เรียน พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ทุกท่าน
วันนี้ (3 ส.ค.2560) คณะกรรมการจังหวัดยังคงมีมติให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กรมชลประทาน ระบายน้ำจากเขื่อนลำปาวในอัตรา 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันต่อไปอีก เพื่อลดระดับน้ำในเขื่อนลำปาวให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่าง และมีข่าวดีว่า น้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำปาวมีปริมาณลดลงเรื่อยๆ โดยเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.2560) มีน้ำไหลเข้า 31 ล้านลูกบากศ์เมตร และยืนยันว่าตัวเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรง โดยทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้จัดเวรยาม สำรวจตรวจตราอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามผลจากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ก็ได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมใน 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ ซึ่งขณะนี้หัวน้ำมวลใหญ่ที่ระบายมาจากเขื่อนลำปาว มาถึงเขตอำเภอเมืองและอำเภอยางตลาดแล้ว นอกจากทำให้ชาวบ้านที่ลุ่มต่ำต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและมีการอพยพไปศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว จังหวัดได้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ
1. พนังกั้นน้ำในเขตอำเภอเมือง ตั้งแต่บ้านท่าฉิมไปถึงบ้านโคกกลาง ที่มีความยาว 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนลูกรัง มีจุดเสี่ยงเพราะเป็นที่ลุ่ม ความยาว 120 เมตร โดยทางชลประทานได้เสริมกระสอบทรายสูง 30 ซม.ไว้แล้ว วันนี้ก็จะนำกระสอบทรายไปเสริมขึ้นอีกจำนวน 1,200 ลูก พร้อมกับให้มีเวรยายเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ลักษณะการเคลื่อนที่ของมวลน้ำจากอำเภอเมือง คาดว่า 18.00 น.วันนี้ ก็จะลงไปถึงบ้านโนนสนวน ต่อไปบ้านฝากปาว ไปบ้านหลักเมือง ไปบ้านโพนงาม บ้านดงลิง ในเขตอำเภอกมลาไสย และไปถึงบ้านด่านใต้ อำเภอร่องคำ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมรับมือมวลน้ำนี้ไว้ด้วย โดยทางชลประทานคาดว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นจากเดิม 30 ซม.
2. ในเขตอำเภอฆ้องชัย ซึ่งต้องรับมือกับน้ำในลำน้ำชีท้นเข้ามาในพื้นที่ ขณะนี้มีการเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำชี ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงอยู่ทั้งหมด 5 จุด โดยมีการเสริมกระสอบทราย และเครื่องจักรเข้าประจำตามจุดต่างๆ ไว้แล้ว พร้อมกำชับให้คอยตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพราะอาจจะรั่วซึมได้ เนื่องจากคันดินอุ้มน้ำมาหลายวัน
สำหรับภาพรวมผลกระทบทั้ง 5 อำเภอ ซึ่งได้รับรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (3 ส.ค.2560) พอสรุปผลกระทบได้ดังนี้
1. ที่อำเภอเมือง
1.1 พื้นที่ตำบลลำพาน มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 เซนติเมตร (รวมระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น 61 ซม.) มีการอพยพประชาชนเข้าพักที่วัดท่าสินประมาณ 20 ครัวเรือน ทหารจาก กกล.รส.จ.ขอนแก่น ร้อย รส.ร.8 พัน 2 มาทำอาหารเย็นเลี้ยง กาชาดกาฬสินธุ์นำข้าวกล่องมาแจก 400 กล่อง พร้อมน้ำ ปภ.เรือท้องแบน 1 ลำ และเรือจากกรมประมง 1 ลำ
1.2 พื้นที่ตำบลห้วยโพธิ์ น้ำเพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร การอพยพราษฎรไม่เพิ่มขึ้น พื้นที่การเกษตรเสียหายเท่าเดิม
1.3 พื้นที่ตำบลหลุบ ที่บ้านดอนสนวน ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 10 เซนติเมตร ยังไม่กระทบที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น พื้นที่การเกษตรยังเสียหายเท่าเดิม
ภาพรวมตอนนี้ทุกหมู่บ้านที่ใกล้จุดเสี่ยง ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง พร้อมให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าเวรยามตลอด 24 ชม. เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที
2. ที่อำเภอยางตลาด
2.1 จุดวิกฤติ ดอนย่านาง ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 15 ซม. ชาวบ้านวางกระสอบทรายป้องกันน้ำเข้าบ้านตนเอง การสัญจรบางจุดใช้เรือหรือรถบริการจากฝ่ายทหาร
2.2 จุดวิกฤติบ้านเซียงสา น้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ซม. จากเมื่อวาน แต่กินบริเวณกว้างขึ้น ชาวบ้านใช้เส้นทางสำรองเข้าออกหมู่บ้าน ยังไม่มีการอพยพ
2.3 จุดวิกฤติบ้านขมิ้น ตำบลนาดี ติด อ.ฆ้องชัย น้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 15 ซม. น้ำเริ่มเอ่อล้นถนน เข้าตำบลอุ่มเม่า นาดี ประมาณ 3 - 5 ซม. การสัญจรไปมายังใช้ได้ ไม่มีการอพยพ
2.4 จุดวิกฤติบ้านนาร่มเย็น ม.15 ต.บัวบาน น้ำแผ่บริเวณออกไป ไหลท่วมถนน เข้าหมู่บ้าน สูง 3-5 ซม. การสัญจรเดินทางยังใช้ได้ และไม่มีการอพยพชาวบ้าน สภาพทั่วไปน้ำสูงขึ้นในอัตราที่ลดลง แต่กินบริเวณกว้างขึ้น น่าจะผ่านจุดสูงสุดในวันนี้
...
3. อำเภอกมลาไสย
3.1 ระดับน้ำในลำน้ำปาวสูงขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 8 ซม. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำชี ณ จุดบ้านหนองมะเกลือ ต.เจ้าท่า เพิ่มระดับสูงขึ้นจากเมื่อวาน 10 ซม. ยังไม่มีผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎร
3.2 มีบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วม บริเวณบ้านฟากปาว ม.14 ต.กมลาไสย จำนวน 17 หลัง ในจำนวนนี้ 3 หลัง ได้จัดให้ราษฎรอพยพมาอยู่ที่ศูนย์รองรับการอพยพฯ 3 ครัวเรือน จำนวน 11 คน
3.3 เส้นทางการคมนาคม มีถนนสายรองเสียหายเพิ่มเติม เนื่องจากน้ำท่วมขัง ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จำนวน 4 เส้นทาง ดังนี้
- ตำบลดงลิง ถนนบ้านโนนรัง-บ้านคุยค้อ น้ำท่วมสูง 20-30 ซม. ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ แจ้งให้ราษฎรเลี่ยงใช้เส้นทาง โดยให้ใช้เส้นทางอื่นแทน
- ตำบลดงลิง ถนนสายจากพนังลำน้ำชี้ไปบ้านแวง ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ แจ้งให้ราษฎรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน
- ตำบลดงลิง ถนนเส้นทางไปวัดป่าบ้านโนนเมือง ไม่สามรถสัญจรไปมาได้ แจ้งให้ราษฎรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน
- ตำบลเจ้าท่า ถนนหลังโรงเรียนบ้านท่ากลาง ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ แจ้งให้ราษฎรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน
ทั้งนี้ มทบ.23 ได้จัดส่งกำลังทหารมาประจำในพื้นที่อำเภอกมลาไสย เพื่อช่วยเหลือประชาชน จำนวน 38 นาย พร้อมเรือท้องแบนจำนวน 2 ลำ รถ 5 คัน
4. อำเภอฆ้องชัย
4.1 ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ ต.โนนศิลาเลิง ในหมู่ที่ 1, 2, 7, 9 สูงขึ้นจากเมื่อวานโดยเฉลี่ยประมาณ 5 ซม. จากระดับประมาณ 84 ซม. มาอยู่ที่ระดับประมาณ 89 ซม. (เมื่อเวลา 06.00 น.)
4.2 ผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎร มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วม 24 หลังเท่าเดิม (ไม่มีท่วมเพิ่มเติม)
4.3 พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 2,498.2 ไร่ (เฉพาะ ต.โนนศิลาเลิง ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง) เพิ่มขึ้นจากการรายงานเมื่อวานนี้ประมาณ 17.2 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 5 ราย 6 บ่อ
4.4 เส้นทางการคมนาคม ถนนสายโนนศิลาเลิง - บ้านสว่าง หมู่ 2, 9 มีน้ำไหลพาดถนน รถเล็กยังสามารถสัญจรได้ ถนนสายบ้านหนองคู - บ้านโคกคันจ้อง ต.หัวงัว อ.ยางตลาด เริ่มมีน้ำไหลพาดถนน รถเล็กยังสามารถสัญจรได้
...
ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนเรือท้องแบนจาก สภ.ฆ้องชัย 2 ลำ สภ.กมลาไสย 1 ลำ สภ.ร่องคำ 2 ลำ รวม 5 ลำ และกองกำลังฯ สนับสนุนรถยกสูงรับ-ส่งนักเรียน ตอนเช้าและตอนเย็น 1 คัน
5. อำเภอร่องคำ
5.1 ระดับน้ำบริเวณบ้านด่านใต้ ตำบลเหล่าอ้อย ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังเนื่องจากเป็นบริเวณที่แม่น้ำปาวและน้ำชีไหลมาบรรจบกัน ก่อนที่จะไหลลงสู่ฝายร้อยเอ็ดที่อำเภอเชียงขวัญ ระดับน้ำเช้าของวันนี้ (เวลา 06.00 น.) เพิ่มขึ้นประมาณ 4 ซม. ยังไม่มีผลกระทบใดๆ กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของราษฎร ระดับน้ำยังอยู่ห่างจากจุดตั้งบ้านเรือนของราษฎร
5.2 บ้านเหล่าอ้อยและบ้านค้อพัฒนา เป็นจุดที่อยู่ติดกับสะพานข้ามลำปาวเชื่อมจาก อ.ร่องคำ ไป อ.กมลาไสย ระดับน้ำของวันนี้ (เวลา 06.00 น.) เพิ่มขึ้น 3 ซม. ระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าระดับถนนสายหลักเส้นโพนทอง-ขอนแก่น การจราจรถนนสายหลักยังสามารถใช้การปกติ
5.3 บริเวณบ้านทรัพย์เจริญ ต.สามัคคี ที่เป็นที่ตั้งของหนองเลิงเปือย น้ำเต็มขอบหนองขึ้นมาท่วมผิวจราจร แต่ยังสามารถสัญจรได้ ได้ใช้กรวยเชือกกั้นขอบหนองเตือนให้ผู้สัญจรระมัดระวังแล้ว
วันนี้ (3 ส.ค.2560) เวลา 08.00 น. ผมได้ประชุมคณะทำงาน เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์เช่นทุกวัน ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายแก่พี่น้องเกษตรกรตามระเบียบของทางรราชการ ก็จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็วและให้หน่วยงานต่างๆ จะระดมสรรพกำลังออกไปเยี่ยมเยือนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็ขอฝากให้พี่น้องในพื้นที่เสี่ยง ที่ต้องการขนย้ายทรัพย์สินมาอยู่ที่สูง ให้ประสานหน่วยงานที่พื้นที่ ผมยืนยันว่าจังหวัดได้สั่งการให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว และการดูแลทรัพย์สินของชาวบ้านที่จะถูกน้ำท่วมอย่างดีที่สุดครับ พร้อมกับกำชับให้ทุกโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากถูกน้ำท่วม ให้จัดหาที่เรียนเพื่อให้มีการเรียนการสอนตามปกติ
...
อย่างไรก็ตาม ผมขอฝากสิ่งที่ท่านต้องเตรียมการไว้ตลอดเวลา คือ ติดตามข้อมูลข่าวสารของทางราชการ เพื่อให้รู้การเคลื่อนตัวของมวลน้ำและการระบายน้ำ ตลอดจนการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนของทางจังหวัด เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจไว้ด้วย.