ชลประทานเผยสาเหตุพนังกั้นน้ำที่บ้านดอนว่านพัง เหตุปริมาณน้ำมากเกินความจุ เร่งผันน้ำกลับลงลำเซบาย รับมวลน้ำระลอกใหม่ เตือนชาวอำนาจเจริญ ที่อยู่ติดลำน้ำมูลเตรียมรับมือ

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่พนังกั้นน้ำลำเซบายขาด ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาล เอ่อเข้าท่วมที่บ้านดอนว่าน ต.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 50,000 ไร่

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน เผยสาเหตุที่พนังกั้นน้ำขาด เนื่องจากปีนี้ จ.อำนาจเจริญ ได้รับมวลน้ำจาก จ.ยโสธร ไหลลงสู่ลำเซบายเป็นจำนวนมาก ประกอบปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ ทำให้น้ำในลำเซบายเอ่อล้นพนังกันน้ำ ซึ่งเป็นคันดิน ก่อนจะกัดเซาะกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนขาดในที่สุด ล่าสุดจุดที่ขาดมีความกว้างประมาณ 30-40 เมตร ทั้งนี้ ยังมีจุดที่น้ำล้นคันดินอีกกว่า 8 จุด จึงเป็นเหตุให้ระดับที่ท่วมบ้านดอนว่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายเกียรติศักดิ์ ผลัดวง ผู้อำนวยการชลประทานอำนาจเจริญ กล่าวว่า พนังกั้นน้ำลำเซบายแห่งนี้ สร้างเมื่อปี 2545 มีความยาวประมาณ 22 กิโลเมตร กว้าง 4 เมตร แต่เนื่องจากดินที่ใช้ทำเป็นพนังกั้นน้ำส่วนใหญ่ที่ภาคอีสาน เป็นดินร่วนปนทราย จึงไม่สามารถอุ้มน้ำได้ดีเหมือนกับดินเหนียว ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาพนังสามารถรับน้ำได้ เนื่องจากระดับสูงสุดในปีที่ผ่านมา อยู่ต่ำกว่าคันดิน 1-2 เมตร

...

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ปริมาณน้ำมากเกินกว่าปกติ เนื่องจากระดับน้ำห่างจากคันดินเพียงแค่ไม่ถึง 50 เซนติเมตร และเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้คันดินที่บ้านดอนว่านขาด เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 28 ก.ค. 60 โดยก่อนหน้าที่คันดินจะขาด ชลประทานได้ส่งหนังสือด่วนถึงอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เร่งอพยพผู้คน รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงแล้ว

สำหรับการแก้ไขปัญหานั้น เบื้องต้น ทางชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำที่เอ่อท่วมหมู่บ้าน โดยการผันน้ำลงแก้มลิงที่ชลประทานสร้างไว้ และเปิดประตูระบายน้ำทุกบานให้น้ำไหลกลับลงสู่ ลำเซบาย แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมีค่อนข้างมาก เนื่องจากมวลน้ำจากยโสธร ยังคงไหลลงมาเติมอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การระบายน้ำใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติ่มอีก ระดับน้ำน่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในเวลา ประมาณ 10-15 วัน

ทั้งนี้ หลังจากที่น้ำลดลงบางส่วนจนสามารถนำเครื่องจักรเข้าพื้นที่ได้ ชลประทานจะเร่งเข้าซ่อมแซมพนังที่ขาด และจะนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกัน มวลน้ำทั้งหมดของอำนาจเจริญ หลังจากที่ผันน้ำลงลำเซบายแล้ว น้ำจะไหลต่อไปยัง อ.เขื่องใน และไหลลงแม่น้ำมูล ก่อนจะไหลลงต่อไปยัง แม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม โดยที่ภายในสัปดาห์หน้านี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ติดกับแนวของลำน้ำมูล เตรียมรับมือกับมวลน้ำที่มาจากทั่วสารทิศเป็นจำนวนมาก