นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาน้ำท่วมสกลนคร เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใย กำชับทุกภาคส่วนช่วยเหลือสุดความสามารถ ตั้งงบประมาณช่วยเพิ่มเติม จ่อใช้เป็นโมเดลแก้น้ำท่วม ย้ำ เป็นภัยธรรมชาติอย่าโยงการเมือง
เวลา 09.30 น. วันที่ 2 ส.ค. 60 ที่ท่าอากาศยานสกลนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ลงพื้นที่ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย เพื่อตรวจราชการ รับฟังปัญหาและหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน โดยมี นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร บรรยายสรุปถึงสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน ต่อด้วย นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำ ซึ่งมวลน้ำกำลังเคลื่อนผ่านประตูระบายน้ำจากหนองหารสู่ลำน้ำก่ำ ก่อนออกสู่แม่น้ำโขงที่ จ.นครพนม ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณการระบายออกจากหนองหาร ซึ่งจะสามารถลดปัญหาน้ำท่วมโดยรอบลำน้ำก่ำในไม่ช้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จ.สกลนคร ถือว่าหนักสุดใน 35 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย โดย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ พร้อมกำชับรัฐบาลให้เข้าช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ และพระองค์ได้พระราชทานถุงยังชีพ รวมถึงโรงครัวพระราชทานขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถทำอาหารแจกจ่ายให้กับราษฎรที่เดือดร้อนทั้งในเขตเมืองและอำเภอรอบนอก
...
นอกจากนี้ รัฐบาลยังอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมพิเศษนอกเหนือจากงบของจังหวัด ทั้งเรื่องเงินช่วยเหลือ เครื่องอุปโภคบริโภค การเยียวยาหลังน้ำลด ในระยะยาวจะต้องนำวิกฤติน้ำท่วมที่สกลนคร เป็นโมเดลนำไปใช้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบ เพิ่มมาตรฐานของอ่างเก็บน้ำ ระบบป้องกันภัย โดยจะต้องทำคันดินห้วยทรายที่พังทลายขึ้นใหม่และต้องแข็งแรงได้มาตรฐาน เพิ่มระดับความจุของห้วยทราย เขื่อนน้ำอูน รวมถึงหนองหาร คันดินแม่น้ำทุกสายต้องแข็งแรงคงทน ต้องมีการลงมืออย่างจริงจัง เป็นโมเดลเพื่อนำไปใช้กับจังหวัดต่างๆ
“อุทกภัยใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ อย่าไปโยงกับการเมือง และไม่ควรแสวงหาผลประโยชน์กับภัยพิบัติครั้งนี้”
สุดท้าย นายกรัฐมนตรี ยังฝากไปยังภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนที่ประสบอุทกภัยให้เข้มแข็ง และรักษาสุขภาพ ในนามรัฐบาลรับปากว่าจะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างสุดความสามารถด้วยทุกอย่างที่รัฐบาลมี.