สกลนครยังอ่วม
สถานการณ์น้ำท่วม จ.สกลนคร ยังไม่พ้นวิกฤติ บางพื้นที่ยังจมน้ำ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ประชาชนถูกตัดขาด ต้องใช้ ฮ.ขนเสบียงอาหารไปช่วยเหลือยังชีพ ส่วนสนามบินสกลนคร เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นรันเวย์หลังน้ำลด คาดเปิดใช้การได้ตามปกติในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ชาวบ้านแฉ อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นแตก น้ำทะลักท่วม แต่กรมชลฯยืนยันอ่างเก็บน้ำแตกไม่ใช่ต้นเหตุทำให้น้ำท่วมสกลฯ ขณะเดียวกัน เกิดเหตุสลดใจ หนุ่มชาวบ้านใช้กระบะพลาสติกผสมปูนลอยน้ำไปช่วยเพื่อนถูกน้ำท่วม เกิดพลิกคว่ำจมน้ำเสียชีวิต และสารวัตรสืบฯนำเรือออกไปตรวจสภาพน้ำท่วม เกิดตะคริวกินตกลงไปจมน้ำหมดสติ เสียชีวิตหลังถูกหามส่ง รพ. ขณะที่นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.สกลนคร เยี่ยมเยียนมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในวันที่ 2 ส.ค.นี้
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะระดมกำลังลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะที่ จ.สกลนคร หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมจมมิดแทบกลายเป็นเมืองบาดาล ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร เข้าขั้นวิกฤติ ถือว่าหนักสุดในรอบ 40 ปี เดือดร้อนกันทั่วหน้า มีผู้สังเวยชีวิตไปแล้วหลายราย และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก แต่ยังมีผู้ประสบภัยอีกจำนวนมากในพื้นที่ชนบทห่างไกล ที่ยังระทมทุกข์รอการช่วยเหลือ
สกลนครยังวิกฤติน้ำสูงกว่า 1 เมตร
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ จ.สกลนคร มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมเป็นวันที่ 4 ในเขตเทศบาลนครสกลนคร น้ำเริ่มลดลงบางจุด ที่ชุมชนหนองสนม ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ติดกับหนองหาร ระดับน้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนขนเสบียงอาหารส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนน้ำอูน ปริมาณกักเก็บที่ 520 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำ 640 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 123 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนน้ำพุง ปริมาณกักเก็บ 165 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำ 171.790 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103.81 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนองหาร มีพื้นที่กว่า 78,000 ไร่ ระดับกักเก็บ 266 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำ 413 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 154 เปอร์เซ็นต์ มากเป็นประวัติการณ์ และไหลบ่าเข้าเรือกสวนไร่นา และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่รอบหนองหารเป็นบริเวณกว้าง โดยพื้นที่รอบหนองหาร ประกอบด้วย อ.เมืองสกลนคร อ.โพนนาแก้ว อ.กุสุมาลย์ อ.โคกศรีสุพรรณ
...
ดับสังเวยน้ำท่วมแล้ว 7 ราย
ส่วนภาพรวมในพื้นที่ จ.สกลนคร ทั้ง 18 อำเภอ ได้รับความเสียหายจำนวน 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสกลนคร อ.โพนนาแก้ว อ.กุสุมาลย์ อ.โคกศรีสุพรรณ อ.เต่างอย อ.พรรณานิคม อ.พังโคน อ.อากาศอำนวย อ.สว่างแดนดิน อ.คำตากล้า อ.วานรนิวาส อ.วาริชภูมิ และ อ.กุดบาก พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 200,000 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 100,000 คน เส้นทางหลักและรองเสียหายกว่า 60 สาย เสียชีวิต 7 ราย มีหมู่บ้านที่อยู่ในขั้นวิกฤติหลายแห่งที่มีน้ำล้อมรอบระดับน้ำสูง 1-2 เมตร เช่น ที่ ต.เชียงสือ อ.โพนนาแก้ว จำนวน 3 หมู่บ้าน ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จำนวน 4 หมู่บ้าน ต.เหล่าปอแดง ต.โคกก่อง อ.เมืองสกลนคร จำนวน 7 หมู่บ้าน ต.นาซอ ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จำนวน 8 หมู่บ้าน ต.ต้นผึ้ง อ.พังโคน 5 หมู่บ้าน ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จำนวน 2 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยกู้ภัย ตชด.23 และ อบจ.สกลนคร ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือโดยนำเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยบินตำรวจและของทหาร แจกจ่ายถุงยังชีพด้วยการหย่อนลงในบางจุดที่ไม่สามารถเข้าออกได้ ขณะเดียวกันได้ช่วยเหลืออพยพราษฎรที่ได้รับผลกระทบออกจากพื้นที่
เร่งฟื้นฟูสนามบินเตรียมเปิด 1 ส.ค.
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพสนามบินสกลนคร ที่ถูกน้ำท่วมขัง และสั่งการให้นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมการท่าอากาศยาน นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง นายอภิรัฐ ไชยวงศ์ ผอ.สำนักทางหลวงที่ 3 และแขวงการทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด เข้าเคลียร์พื้นที่ของสนามบินโดยการสูบน้ำและตรวจสอบรันเวย์ แท็กซี่เวย์ของสนามบิน ตลอดจนลานจอดเครื่องบิน เพื่อให้สามารถบริการการบินได้ตามปกติ คาดว่าจะเปิดใช้สนามบินได้ตามปกติในวันที่ 1 ส.ค.
ช่วยเพื่อนจมน้ำตายอีก 1 ราย
ขณะเดียวกัน เกิดเหตุสลดใจขึ้นโดยเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 31 ก.ค. ร.ต.อ.จิรพงษ์ จิราทิวัฒนากุล รอง สว. (สอบสวน) สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านโนนค้อ หมู่ 6 ต.สว่างแดนดิน ผู้ตายชื่อนายกฤษดา มิกะราช อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 6 ต.สว่างแดนดิน โดยก่อนเกิดเหตุนายกฤษดานำกระบะพลาสติกที่ใช้ผสมปูน เป็นพาหนะลอยน้ำออกไปช่วยเหลือเพื่อนที่โดนน้ำท่วมในหมู่บ้าน เกิดพลิกคว่ำจมน้ำเสียชีวิตเนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น
ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแตก
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบสภาพของอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.ขมิ้น อ.เมืองสกลนคร ที่เกิดพังทลาย น้ำไหลออกจากอ่างจนหมด ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อเช้าวันศุกร์ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ออกไปดูระดับน้ำ เพราะมีน้ำล้นทำนบดินไหลลงด้านล่าง ปรากฏว่าช่วงสายน้ำล้นทำนบดิน และกัดเซาะจนประตูระบายน้ำและสันเขื่อนพังทลายลึกประมาณ 4 เมตร ยาว 20 เมตร มวลน้ำทะลักลงสู่ด้านท้ายเขื่อน ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำธรรมชาติที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นแห่งนี้ มีอายุกว่า 60 ปี สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุด 2.66 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่งจะเคยเกิดเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซม นำดินมาถมสร้างทำนบดินใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 15 วันถึงจะแล้วเสร็จ
โรงครัวพระราชทานช่วยเหลือ
จากความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยงานพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สำนักพระราชวัง โดยนายวีระศักดิ์ ต่ายเนาว์ดง ผอ.พระตำหนักฯ นำเจ้าหน้าที่ออกโรงครัวพระราชทาน ทำกับข้าวแจกจ่ายแก่ราษฎรผู้ประสบภัย ในเขตเทศบาลนครสกลนคร วันละ 2,000 กล่อง ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทร กิติคุณ ประทานข้าวสารจำนวน 20 กระสอบ เพื่อประกอบอาหาร ขณะที่ นพ.พิชิต สุวรรณปราการ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายและได้ตั้งโรงครัวประทานเพื่อให้ผู้อพยพและเจ้าหน้าที่รับประทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
...
นครพนมน้ำท่วม 11 อำเภอ
ที่ จ.นครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ. นครพนม เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจาก จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะไหลมาจากทะเลสาบหนองหารที่รับน้ำได้ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร และต้องระบายออกมาที่ จ.นครพนม 200 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบายได้วันละ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่จังหวัดนครพนม สามารถระบายลงสู่น้ำโขงได้วันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะติดขัดเรื่องประตูน้ำมีหลากหลายประตู ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างทำให้น้ำไหลได้ช้า ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว 11 อำเภอ จาก 12 อำเภอ ทางจังหวัดกำลังเร่งสำรวจ และเตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าน้ำที่ระบายได้ไหลมาทางลำน้ำก่ำ ส่งผลกระทบกับ อ.วังยาง และ อ.นาแกมากที่สุด ส่วนด้านลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ที่ไหลมาลงแม่น้ำโขงที่ อ.ท่าอุเทน รับน้ำกระจายเป็นวงกว้างเช่นเดียวกัน
น้ำล้นอ่างท่วมพื้นที่การเกษตร
ที่ จ.ศรีสะเกษ สถานการณ์ล่าสุด อ่างเก็บน้ำจำนวน 13 แห่ง จากทั้งหมด 16 แห่งของจังหวัด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา และอ่างเก็บน้ำโอว์ตาลัด น้ำได้ล้นสปิลเวย์ไหลทะลักลงมาตามลำห้วย และตามลำน้ำสาขา เอ่อล้นเข้าไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในหลายอำเภอ จำนวนกว่า 2 หมื่นไร่ รวมทั้งถนนหลายสายถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ขณะที่เขื่อนราศีไศลได้ยกประตูระบายน้ำขึ้นสูง 2.50 เมตร เพื่อให้น้ำในแม่น้ำมูลไหลตามธรรมชาติ ยังไม่มีผลกระทบพื้นที่ถูกน้ำท่วม ส่วนที่ อ.ภูสิงห์ การสำรวจความเสียหายขั้นต้น พบถนนในหมู่บ้าน และเส้นทางสำหรับใช้ในการเกษตร เสียหาย 25 เส้นทาง ทางอำเภอได้มอบหมายให้ อบต.ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้สัญจรได้ก่อนชั่วคราว และบางส่วนอยู่ในระหว่างรอการซ่อมแซมเนื่องจากต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน
...
หนองคายเร่งซ่อมฝายแตก
ที่ จ.หนองคาย นางเบญจพร ไชยโชค กำนัน ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ชลประทานหนองคาย ออกสำรวจพื้นที่บริเวณฝายชลประทาน 3 แห่ง ประกอบด้วยฝายบ้านนาบอน หมู่ 5 ฝายบ้านดงป่าเปลือย หมู่ 6 และฝายบ้านซำเจียง หมู่ 2 ที่แตกน้ำทะลักออกจากฝายเกือบหมด โดยเฉพาะฝายบ้านดงป่าเปลือย และฝายบ้านซำเจียง เสียหายหนักอาจถึงขั้นต้องสร้างใหม่ ส่วนฝายบ้านนาบอนคาดว่าสามารถซ่อมแซมได้ นางเบญจพรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชลประทานได้เก็บข้อมูลก่อนจะรวบรวมรายงานพิจารณาหน่วยงานต้นสังกัดว่าจะสามารถดำเนินการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ สำหรับฝายทั้งสามแห่งที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ในเบื้องต้นขณะนี้ระดับน้ำที่แตกจากฝายลงสู่ลำห้วยน้ำฮวยนั้น สามารถระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำเป็นปกติ แต่ชาวบ้านวังมน ต.บ้านม่วง ยังไม่มีน้ำประปาใช้ เนื่องจากเครื่องสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย ชาวบ้านต้องใช้น้ำฝน และน้ำที่เหลือเก็บใช้ไปพลางก่อน ส่วนไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
กาฬสินธุ์เข้าสู่ภาวะปกติ
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงเรื่อยๆ จนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงบ้านที่อยู่ติดกับลำน้ำปาวไม่กี่ครัวเรือนที่ยังมีท่วมขัง หากฝนไม่ตกสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน และเทศบาลจะเร่งทำความสะอาด ขณะที่โรคภัยที่พบส่วนใหญ่จะเป็นโรคน้ำกัดเท้า และเชื้อราในร่มผ้า โดยที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ที่วัดหอไตรปฏิการาม คณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ได้ออกมาตั้งจุดตรวจรักษาชาวบ้าน เมื่อสถานการณ์คลี่คลายทางเทศบาลจะดำเนินการสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการเยียวยาประชาชนที่ประสบภัยต่อไป
...
นอนผวาน้ำกัดเซาะบ้านพัง
ที่ จ.ขอนแก่น มีรายงานว่าหมู่บ้านโนนหนองลาด หมู่ 7 ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถยนต์ไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ สภาพหมู่บ้านกลายเป็นเกาะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก ทางป้องกันอำเภอได้จัดส่งเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ มารับส่งชาวบ้านเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ที่ปักดำเสร็จไปได้ประมาณ 2-3 เดือนถูกน้ำท่วมเสียหายหมด ส่วนประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งลำน้ำพองต้องนอนหวาดผวา เพราะชายฝั่งริมน้ำถูกกระแสน้ำกัดเซาะผิวดินพังลงน้ำไปเรื่อยๆ และระดับน้ำในลำน้ำพองสูงขึ้นวันละ 10-15 ซม. ชาวบ้านพากันรื้อบ้านหนีน้ำเพราะเกรงบ้านจะพังทลายทรัพย์สินเสียหาย
อุดรฯแห่จับปลาขายยังชีพ
ที่ จ.อุดรธานี บริเวณวัดศิริสุทโธ หรืดวัดป่าคำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง ที่เชื่อกันว่าเป็นดินแดนของพญานาค เนื้อที่โดยรอบวัดถูกน้ำท่วมจนกลายสภาพเป็นเกาะกลางน้ำ พระสงฆ์ต้องย้ายไปอยู่ในที่สูง บางจุดต้องใช้เครื่องสูบน้ำออกจากกุฏิพระ ส่วนร้านค้านับร้อยร้านถูกน้ำท่วมพากันปิดตาย พ่อค้าแม่ค้านำเครื่องมือใช้หาปลาออกจับปลาขายหารายได้เสริมใช้ยังชีพช่วงที่น้ำท่วมร้านค้าขายไม่ได้ รอจนกว่าน้ำลดถึงจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่วัดตามปกติ
พ.ต.ท.ตะคริวกินจมน้ำดับ
ที่ จ.เชียงราย มีรายงานช่วงเย็นวันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ธิมาชัย อายุ 43 ปี สว.สส.สภ.เทิง จ.เชียงราย นั่งเรือออกตรวจสอบสภาพน้ำท่วม ที่บ้านแม่ลอยหลวง หมู่ 3 ต.ศรีดอนไชย อ.เทิง จ.เชียงราย เกิดเป็นตะคริวตกลงไปจมน้ำ ตำรวจที่ร่วมคณะเดินทางไปด้วยประสบเหตุช่วยงมร่างขึ้นมาพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมแสงธรรมเทิง นำส่ง รพ.เทิง ในสภาพไม่รู้สึกตัวแต่ยังมีชีพจรเต้นอยู่ เจ้าหน้าที่ช่วยปั๊มหัวใจตลอดทางที่นำส่ง เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์เยียวยายื้อชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์อาการโคม่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและตำรวจเพื่อนร่วมงาน
เมืองชาละวันน้ำทะลักท่วม
ที่ จ.พิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.พิจิตร พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำป่าจาก อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ที่ไหลเข้าสู่คลองห้วยน้ำโจน ทะลักล้นท่วมบ้านเรือนราษฎรนับร้อยหลังคาเรือนที่หมู่ 5 และหมู่ 10 ต.ห้วยร่วม อ.ดงเจริญ รวมทั้งนาข้าวของเกษตรกรที่เตรียมเก็บเกี่ยวกว่า 2 พันไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหาย นอกจากนี้ ถนนสายคลองน้ำโจน-ห้วยร่วม ถูกน้ำท่วมสูงระยะทางประมาณ 1 กม. รถยนต์แล่นผ่านไม่ได้ จากนั้นไปตรวจพื้นที่ ต.ห้วยเขน อ.บางมูลนาก ที่น้ำป่าจากคลองบุษบงไหลทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวน 10 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน และที่วัดห้วยเขน ที่มีพระอุโบสถเก่าอายุนับร้อยปี ที่หลวงพ่อเงิน พระเกจิชื่อดังที่เคยจำพรรษา ถูกน้ำท่วมเช่นกัน นอกจากนี้ น้ำป่ายังทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.ทับคล้อ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน และ อ.เมืองพิจิตร ส่วนแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน 4 อำเภอ น้ำบางช่วงได้เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวเกษตรกรแล้ว ขณะนี้ทั้งน้ำป่าและน้ำจากแม่น้ำยมที่หลากท่วมทำให้กระทบนาข้าวของเกษตรกรแล้วกว่า 40,000 ไร่
นายกฯเตรียมลงพื้นที่นํ้าท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพและรับฟังรายงานสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย เยี่ยมชมครัวพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเยี่ยมประชาชนโครงการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ “ย้อมบ้านล้างเมือง” ที่เขตเทศบาลนครสกลนคร จากนั้นจะนั่งเรือไปให้กำลังใจประชาชนที่ชุมชนรอบหนองหาร ก่อนต่อไปยังพื้นที่ติดตั้งสะพานแบรี่ย์เพื่อตรวจดูสภาพสะพานหลังถูกน้ำกัดเซาะ จากนั้นจะไปอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นเพื่อดูสภาพพื้นที่
ปภ.เผยน้ำเริ่มลดลง 30 จังหวัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดว่า ภาพรวมมีพื้นที่น้ำท่วมใน 42 จังหวัด โดยสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 30 จังหวัด เหลือ 12 จังหวัดที่ยังมีน้ำท่วม โดยเฉพาะ จ.สกลนคร และ จ.ร้อยเอ็ด ในพื้นที่ จ.สกลนคร ในตัวเมืองและพื้นผิวถนนน้ำลดลงแล้ว รวมถึงในสนามบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบด้านความปลอดภัย คาดว่าอีกไม่นานจะกลับมาใช้การได้ ส่วนเส้นทางอื่นๆที่สะพานถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ได้นำสะพานแบร์รี่ย์ไปวางเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกตัดขาดจากการเดินทางและการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีน้ำมากบริเวณอำเภอหนองหาร เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำผ่านลำน้ำก่ำ จ.สกลนคร ผ่าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นระยะทางกว่า 100 กม. ก่อนลงสู่แม่น้ำโขง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ คงต้องใช้ระยะเวลาในการสูบน้ำออก
ยืนยันรัฐบาลเตือนภัย ปชช.เต็มที่
นายฉัตรชัยกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอด ปภ.ได้แจ้งเตือนก่อนวันที่ 23 ก.ค. ก่อนพายุจะเข้าและแจ้งเตือนต่อเนื่องถึง 5 ครั้ง จนถึงวันที่ 27 ก.ค. อาทิ เตือนเรื่องดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรงในทะเลอันดามัน ถ้าจะถามว่าในเมื่อเตือนแล้วเหตุใดจึงเกิดปัญหา เราไม่ได้โทษธรรมชาติ แต่ในพื้นที่ จ.สกลนคร มีฝนตกหนักบนยอดเขาภูพาน ส่งผลให้น้ำไหลหลากลงมาจำนวนมาก ยืนยันว่ารัฐบาลได้เตือนภัยเต็มที่แล้ว โดยกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งไปยัง ผวจ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะเป็นพื้นที่ปลายทางของแม่น้ำชี ที่จะบรรจบกับแม่น้ำมูล ที่บริเวณ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ลุ่มน้ำป่าสัก-เจ้าพระยาไม่น่าห่วง
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ส่วนของลุ่มน้ำป่าสัก ขอให้ประชาชนมั่นใจในสถานการณ์น้ำ หน่วยงานราชการได้พร่องน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไว้แล้ว จึงยังสามารถรับน้ำได้ ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับแนวทางการทำงานของรัฐบาล ยึดหลักการบริหารเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยพาประชาชนจากจุดเสี่ยงไปยังจุดปลอดภัย ส่วนพื้นที่ใดที่คลี่คลายแล้วจะแก้ไขให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนเพื่อจะรีบซ่อมแซม โดยรัฐบาลมีเงินทดรองราชการแต่ละจังหวัดที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ อีกส่วนที่สำคัญคือการบริหารปัญหาระบายน้ำ โดยรัฐบาลสั่งการว่าหน้าแล้งจะมีน้ำไว้ใช้ได้อย่างไรบ้าง ส่วนนี้ก็ได้มีการผันน้ำไปยังลุ่มน้ำต่างๆที่ไม่มีความเสี่ยง
“สปน.” ตั้งศูนย์ปรุงอาหารสดช่วยเหลือ
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ความห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม รับสั่งให้นำสิ่งของที่ประชาชนนำมาร่วมตักบาตรวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา มาจัดให้กับผู้ประสบภัย ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆจะเป็นเช่นเดียวกันกับการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ทั้งนี้ จะตั้งศูนย์ปรุงอาหารสดในพื้นที่ประสบภัยทั้งใน จ.สกลนคร และพื้นที่ประสบภัยอื่น โดยสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการร่วมกับจังหวัดและจิตอาสา ใช้เงินจากกองทุนเดิมจำนวน 788 ล้านบาท และเงินบริจาคเพิ่มเติมกว่า 1 ล้านบาท จะเน้นไม่ให้ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวจะเปิดที่ทำเนียบรัฐบาลและในพื้นที่ที่ประสบภัย
กรมชลฯยันอ่างไม่แตก
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีอ้างว่า อ่างเก็บนํ้าห้วยทรายขมิ้นแตก ทำให้เกิดน้ำท่วมจังหวัดสกลนครนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะมวลน้ำทั้งหมดจะผ่านไหลไปสู่หนองหาร การที่จังหวัดสกลนครน้ำท่วมเกิดจากฝนตกสะสม 3 วัน มีปริมาณ 400 มิลลิเมตร ในรอบ 50 ปี จ.สกลนคร จะมีโอกาสฝนตกหนักแบบนี้ ทำให้ชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน อย่างไรก็ตามการที่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นแตก เกิดจากมวลน้ำเทือกเขาภูพานไหลลงมาประกอบกับปริมาณน้ำฝนบางส่วนที่ไหลเข้ามาในเขื่อนประมาณ 3.7 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินปริมาณระดับกักเก็บสูงสุดของเขื่อนคือ 2.66 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงเกิดการไหลของสันเขื่อน หรือล้นคันออกไป
ผบ.ทบ.ลงพื้นที่สกลนคร
วันเดียวกัน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ จ.สกลนคร รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร ปัจจุบันมีน้ำท่วมใน 18 อำเภอ ราษฎรได้รับผลกระทบ 33,162 ครัวเรือน 104,838 คน พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 152,087 ไร่ จากนั้น พล.อ.เฉลิมชัยนำคณะไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยโรงยิม อบจ.สกลนคร ซึ่งจังหวัดเปิดศูนย์พักพิง รวม 5 แห่ง มียอดผู้พักอาศัยกว่า 1 พันคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก มีการจัดเจ้าหน้าที่และชุดแพทย์ทหาร รพ.ค่ายกฤษณ์สีวะรา และโรงพยาบาลจากอำเภอต่างๆผลัดเปลี่ยนเข้ามาดูแลรักษาอาการเจ็บป่วย จากนั้นคณะ ผบ.ทบ.เดินทางไปตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครสกลนคร พบระดับน้ำได้ลดลงไปถึงแยกธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนสุขเกษม ตัดถนนรัฐพัฒนา มีระดับน้ำสูง 30-70 ซม. มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่ยังมีน้ำท่วมขังถนนสายหลักในย่านเศรษฐกิจ ต่อมาเดินทางไปติดตามการก่อสร้างสะพานแบร์รี่ ที่บ้านห้วยทราย ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร ที่ถูกน้ำกัดเซาะขาด การก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถให้รถสัญจรผ่านเชื่อมต่อไปยังจังหวัดอุดรธานีได้ชั่วคราว แต่จำกัดน้ำหนักรถไม่เกิน 15 ตัน