"ชายไทย" เปิดใจ หลังถูกสหรัฐฯ ขึ้นแบล็กลิสต์ ยันไม่เกี่ยวสแกมเมอร์ เคยทำธุรกิจ เสียภาษีถูกต้อง แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว โอดเหมือนถูกใส่ร้าย ทำอะไรไม่ได้เลย

จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างว่าสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติของสหรัฐฯ (OFAC)  ประกาศแถลงการณ์ ประกาศคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทที่อยู่ในเมียนมาและประเทศไทย ฐานมีส่วนเกี่ยวพันกับแก๊งสแกมเมอร์ โดยระบุว่ากลุ่มกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของจีน ตั้งศูนย์สแกมในเขตชายแดนเมียนมา-ไทย เพื่อดูดเงินจากเหยื่อในสหรัฐฯ ผ่านการลงทุนปลอม โดยรายได้ที่ได้จากศูนย์สแกมเหล่านี้ยังถูกนำไป สนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายและความรุนแรงของ DKBA 

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของ OFAC ยังระบุถึงการคว่ำบาตร บริษัท ทรานส์เอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด (ทรานส์เอเชีย) บริษัทในแม่สอด ประเทศไทย, บริษัท ทรอธ สตาร์ จำกัด (ทรอธ สตาร์) ในประเทศเมียนมา และนายจะมู สว่าง (Chamu Sawang) สัญชาติไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ หยู เจี้ยนจวิน (Yu Jianjun) ผู้อำนวยการของทรานส์เอเชีย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมจีน และได้ร่วมมือกับ DKBA และกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ เพื่อพัฒนาศูนย์สแกมเมอร์เหล่านี้

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 14 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบ นายจะมู สว่าง หรือ Chamu Sawang หรือ หมอจีน เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า สมัยก่อนตนเช่าที่จริง แต่ทำไม่เป็น จึงขาดทุนและเสียหาย โดยมีการเสียภาษีถูกต้อง แต่สุดท้ายยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ.2564 หรือ 4 ปีที่แล้ว หากยังคงเช่าอยู่ก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย จากนั้นจึงมาทำท่าข้าม ในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด ซึ่งมีการขออนุญาตถูกต้อง

...

นายจะมู กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์นั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เหมือนถูกใส่ร้าย ไม่สามารถทำอะไรฝ่ายที่กล่าวหาได้เลย 

“ผมอยู่ที่ อ.แม่สอด มานาน 36 ปี ทำอาชีพขายส่งเสื้อผ้าไปยังฝั่งเมียนมา และขณะนี้อายุมากแล้ว ไม่ได้ทำอะไร” นายจะมู กล่าว

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบไปยัง สภ.แม่สอด ทราบว่าตำรวจยังไม่ได้สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นเพียงข่าว และไม่มีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น