"ผู้ว่าฯเชียงใหม่" ลงพื้นที่อำเภอฝาง ติดตามการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล ผู้มีสิทธิตามมติ ครม. ย้ำหากมีเจ้าหน้าที่เรียกรับเงิน พร้อมจัดการเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 68) นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ที่ว่าการอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการยื่นขอสถานะบุคคลและสัญชาติไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี 29 ตุลาคม 2567 หลังมีข่าวการเรียกเงินจากบุคคลที่ได้รับสิทธิ

นายทศพล ยืนยันว่า ผู้มีสิทธิตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 จำนวนกว่า 4.8 แสนคน ซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 8 หมื่นคน เป็นคนที่มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลที่มีการสำรวจ มติ ครม. นี้ก็ช่วยเร่งรัดให้กระบวนการแล้วเสร็จหลังจากยื่นคำขอภายใน 5 วัน หลังจากทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ ในกรณีนี้หากมีการแอบอ้างว่าเอามาให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด


เรื่องนี้ ครม. ให้สถานะบุคคลและสัญชาติแก่ผู้มีสิทธิ เพื่อได้ทำมาหากินได้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ เราต้องช่วยทำให้ปัญหานี้บรรลุผล ตามมติ ครม. เชียงใหม่มีกว่า 80,000 คน อำเภอฝางมีมากกว่า 20,000 คน ต่อวันก็มีความสามารถในการดำเนินการได้ 100 คน

...

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ต้องทำให้ดีที่สุด ให้โปร่งใส ไม่ให้มีการเรียกรับประโยชน์อื่นใดนอกจากค่าธรรมเนียม ต้องประกาศให้ชัดเจน ให้ประชาชนไม่เสียสิทธิ ตนลงพื้นที่มายืนยันว่าทุกคนมีหน้าที่ทำตามมติคณะรัฐมนตรี ถ้าตรวจสอบพบการกระทำผิดจริงต้องสั่งลงโทษ


สำหรับกรอบของบุคคลทั้ง 80,000 คน ในกรณีนี้มีการเก็บข้อมูลสำรวจมาเป็นหลัก 10 ปี มีข้อมูลครบถ้วนหมดแล้ว ถือว่าจากนี้เป็นการพิจารณาทางปกครองให้มีคำสั่ง หากเขามีสิทธิก็ให้ใช้คำสั่ง แต่หากไม่มีสิทธิก็ต้องแจ้งให้ทราบว่าไม่มีสิทธิ ให้เขาไปทำการอุทธรณ์และสู้กันในศาลปกครอง