ตำรวจเรียกตัวเด็ก 14 พร้อมผู้ปกครองมาสอบถาม หลังมีคลิปราดน้ำมัน จุดไฟเผาลูกสุนัขทั้งเป็น ก่อนนำซากไปโยนทิ้งน้ำ อ้างเข้าห้องน้ำแล้วหมาจะกัด

จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation" แชร์คลิปเหตุการณ์ที่เด็กชายทำร้ายสุนัข พร้อมแคปชั่นระบุว่า เด็กอายุ 14 จับลูกหมาเผาทั้งเป็นในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิในจังหวัดลำปางได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กชายอายุเพียง 14 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางได้ก่อเหตุโหดร้าย จับลูกหมาเผาทั้งเป็นในห้องน้ำ เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่ว ก่อนจะนำซากไปโยนทิ้งน้ำอย่างเลือดเย็น

นี่ไม่ใช่เพียงการทำร้ายสัตว์ แต่เป็นสัญญาณอันตรายของปัญหาพฤติกรรมรุนแรงที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.เกาะคา และประสานให้ตำรวจติดตามตัวเด็ก พร้อมผู้ปกครองมาที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

โดยกรณีนี้เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 แม้ผู้ก่อเหตุจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่กฎหมายกำหนดให้ต้องเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองและปรับพฤติกรรมอย่างเข้มงวด

ฝากเตือนผู้ปกครองและครู พฤติกรรมรุนแรงต่อสัตว์อาจพัฒนาไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อคน ต้องเฝ้าระวัง สังเกต และแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ สัตว์ทุกชีวิตมีหัวใจ พวกมันไม่ควรต้องตายอย่างทรมานเพราะความสนุกหรืออารมณ์ชั่ววูบของใคร

...


ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ส.ค. 68 ร.ต.อ.ศิริเวช ใจแสนวงค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ และวอชด็อกลำปาง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณห้องน้ำร้างใกล้ลานจอดรถของวัด พบว่าที่บริเวณห้องน้ำมีร่องรอยการถูกไฟไหม้ แต่ไม่พบซากสุนัข นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังมีสุนัขจรจัดอยู่ประมาณ 4-5 ตัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บบันทึกเป็นหลักฐาน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ไปเชิญตัวเด็กชายวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเกาะคา พร้อมผู้ปกครองมาพบตำรวจ

เบื้องต้นเด็กชายรายดังกล่าวรับว่าเป็นคนจุดไฟเผาสุนัขตามในคลิปจริง โดยมีเพื่อนรุ่นเดียวกันอีก 2 คน อ้างว่าจะเข้าห้องน้ำแล้วหมาจะกัด เพื่อนอีกคนจึงใช้น้ำมันซึ่งอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นน้ำมันอะไร ราดก่อนที่ตนเองจะเข้าไปจุดไฟเผา โดยมีเพื่อนอีกคนถ่ายคลิปเอาไว้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลายวันแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้ตำรวจตามเพื่อนอีกสองคน พร้อมผู้ปกครองมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป