ที่กำแพงเพชร แม่สุดช็อก น้องชายต่างพ่อ ข่มขืนลูกสาววัย 14 ปี จนตั้งท้อง ร้องกันจอมพลังเข้าช่วย ด้าน ตร. เผยกำลังเร่งออกหมายจับนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี

จากกรณีที่ "กัน จอมพลัง" ได้โพสต์เรื่องราวที่หญิงชาว จ.กำแพงเพชร ทักมาขอให้ช่วยเหลือลูกสาว อายุ 14 ปี ที่ถูกน้าชายกระทำจนท้องได้ 6 เดือน ทั้งตัวเองก็มีลูกน้อยเป็นผู้หญิงอยู่ และยังคงลอยนวลทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น

ล่าสุดเช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบผู้เสียหาย นางพี (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พร้อมด้วยน้องเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยน้องเอ็มได้เล่าว่า ตนเองถูกน้าชายชื่อนายก๊อง อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นน้องชายคนละพ่อกับแม่ตน เข้ามาข่มขืนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 ตลอดมาถึง 8 ครั้ง โดยทุกครั้งนั้นน้าของตนได้ใช้กำลังบังคับให้ตนถอดเสื้อผ้าออก และบังคับให้ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งได้ข่มขู่ตนว่าอย่าไปบอกใครเด็ดขาด

ครั้งแรกนั้นตนจะไปอยู่บ้านยายช่วงเสาร์ - อาทิตย์ ตอนนั้นกำลังจะซักผ้า น้าของตนพยายามจะเข้ามามีอะไรกับตน ตนก็พยายามบ่ายเบี่ยงเนื่องจากกลัว แต่เขาก็เข้ามาทำกับตนและขู่ว่าห้ามบอกคนอื่น ทุกครั้งตนพยายามขัดขืนแต่ก็ถูกกระทำ ส่วนที่ตนมารู้ว่าตัวเองท้องนั้นเพราะว่ารู้สึกว่ามีอะไรดิ้นอยู่ในท้อง จึงนำเรื่องไปบอกครูที่โรงเรียน ครูจึงแจ้งผู้ปกครองและนำตนไปตรวจที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จึงทราบว่าตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว ต่อมาแม่ตนจึงได้พาตนมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องลูกตนยังไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ตนอยากให้ตำรวจช่วยจับน้ามาดำเนินคดี

ด้านนางพี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า เมื่อรู้เรื่องครั้งแรกก็ตกใจแทบทรุดตัวลงมาเลย ก็ถามลูกว่าใครเป็นคนทำ พอลูกบอกว่าเป็นน้าก๊อง แม่ก็รู้สึกช็อกไปอีก พอตั้งสติได้โทรไปหายายของหลานให้ไปเคลียร์กับนายก๊อง ทำไมถึงทำแบบนี้ ทางฝ่ายนั้นก็ยอมรับว่าทำจริง และได้แต่ขอโทษเท่านั้น ตนจึงต่อว่าไปว่าทำไมทำกับหลานแท้ๆ ได้แบบนี้ จะมาขอโทษตอนนี้มันก็ไม่ได้แล้ว ตนจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดี

...

แต่กลับถูกญาติอีกฝ่ายมาต่อว่า ว่าตนไปแจ้งความดำเนินคดีทำไม แม่ก็บอกว่าแม่ก็ต้องเลือกระหว่างน้องกับลูก ก็ต้องเลือกลูกตัวเองไว้ก่อน ทางนั้นมากระทำแบบนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน ทั้งนี้หากหลานคลอดมา ก็จะรับเป็นลูกของตัวเอง ตอนนี้ก็ห่วงเรื่องเรียน ครูก็ให้เอาใบงานมาทำที่บ้าน ทุกวันนี้ก็ได้แต่ทำให้ลูกไม่เครียด แต่อย่างไรก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน ทางสหวิชาชีพประกอบด้วย พันตำรวจเอกกรวิทย์ อ่อนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร, นางสาวพีชญาดา ตาอ้าย จ่าจังหวัดกำแพงเพชร, เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดกำแพงเพชรเขต 1 เข้าตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว พร้อมเตรียมให้การช่วยเหลือในด้านการดูแลเรื่องเงินสงเคราะห์ ดูแลสุขภาพร่างกายจิตใจ ในส่วนของการเรียนรูปแบบออนแฮนด์ ส่วนในเรื่องคดีเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีถึงที่สุด สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชรดูแลในส่วนของ พ.ร.บ.ชดเชยค่าเสียหายในคดีอาญา

ด้านพันตำรวจเอกเอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวถึงคดีนี้ว่า จริงๆ มีการรับคดีแล้วตามหลักการ จึงต้องเร่งขอออกหมายจับเพื่อให้เอาตัวมาดำเนินคดี แต่ปรากฏว่ามีการหลบหนี จึงได้ดำเนินการออกหมายจับน้าข่มขืนหลานตัวเอง และส่งชุดสืบเข้าไปติดตามจับกุม

ทั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อหาข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี และคดีพรากผู้เยาว์ ซึ่งก็กำชับตำรวจชุดจับกุมให้เร่งนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเกิดเหตุแบบนี้เราต้องเร่งให้เกิดความศรัทธาเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ