ทหารเมียนมาทิ้งบอมบ์ ตอบโต้ทหารกะเหรี่ยง 2 ลูกซ้อน ริมชายแดนพบพระ จ.ตาก ชาวบ้านได้ยินเสียงชัดเจน ขณะที่ยอดผู้หนีภัยเพิ่มเป็น 507 คน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ เผยถึงการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงอิสระ (KNLA/KNU) ร่วมกับกองกำลังพีดีเอฟ หรือกองกำลังปกป้องประชาชน กับฝ่ายทหารเมียนมาด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ว่ายังคงมีการสู้รบในพื้นที่ด้านในของฝั่งเมียนมา หลังจากที่ฝ่ายกะเหรี่ยงได้ยึดที่มั่นสำคัญได้ 2 แห่งสำเร็จ คือ ฐานบุเรงนอง ตรงข้ามบ้านพะดี หมู่ที่ 2 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนริมแม่น้ำเมยประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งฐานบุเรงนองเป็นฐานที่มั่นของทหารเมียนมาที่มีชัยภูมิดีที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดภูเขาสูงถึง 1,268 เมตร สามารถตรวจการณ์พื้นที่ได้ทุกทิศทาง ฝ่ายทหารกะเหรี่ยงเคยพยายามนำกำลังเข้าโจมตีหลายครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
กับฐานที่มั่นคะเนเร บ้านคะเนเร อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ตรงข้ามบ้านทหารผ่านศึก หมู่ที่ 4 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร
ซึ่งในช่วงนี้แม้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ แต่ยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนัก บริเวณฐานทิบาโบ ตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย อ.พบพระ ห่างจากชายแดนไทยติดริมแม่น้ำเมยเพียงแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ฝ่ายทหารกะเหรี่ยงใช้กำลังพลเคลื่อนที่เร็ว อาวุธปืน และกระสุนปืนมากมาย เข้าโจมตีฐานที่ตั้งหวังเข้ายึดฐานทิบาโบให้ได้ แต่กลับถูกทหารเมียนมาใช้เครื่องบินทิ้งบอมบ์ตอบโต้ ส่งผลทำให้ชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่การสู้รบต้องหนีภัยความไม่สงบ อพยพเข้ามาในพื้นที่ฝั่งประเทศไทย
...
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดมอเกอร์ไทย ม.1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 326 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวคริสตจักรบ้านหมื่นฤาชัย ม.5 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 56 คน และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวโกดังเอกพันธ์ ม.1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 125 คน รวมทั้งหมด 507 คนด้วยกัน
ขณะที่ พันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรพบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม พร้อมขอให้ประชาชนชาวไทยไว้วางใจ ทางหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เพิ่มเติมกำลังลาดตระเวน และเฝ้าตรวจในพื้นที่ นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว